Search
Close this search box.
หนังสยองขวัญ

 10 หนังสยองขวัญตลอดกาล

รับประกันความเขย่าขวัญสุดขั้ว

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย หนังสยองขวัญก็ยังถือว่าเป็นประเภทหนังยอดนิยมที่มีแฟน ๆ คอยติดตามลิสต์หนังสยองขวัญออกใหม่อยู่เสมอ สาว ๆ เคยสังเกตไหมคะ? หนังสยองขวัญที่กลายเป็นหนังขึ้นหิ้งของใครหลาย ๆ คน ไม่ได้ใช้ความสยองจากเหล่าผีอย่างเดียว แต่หลาย ๆ เรื่องก็ขายความสยองในเชิงจิตวิทยาให้คนดูจิตตกเล่น ๆ สอดแทรกไปกับตัวบท วิธีการเล่าเรื่อง การจัดแสงสีต่าง ๆ ที่ทำให้หนังสยองขวัญนั้น ๆ กลายเป็นตำนานไปเลย

ท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ก็ทำเอาคอหนังสยองขวัญหงอยเหงาไม่เบา เพราะก็นานมากแล้วที่จะมีหนังสยองขวัญปัง ๆ ออกมาเอาใจขาหวีด Helena ก็ไม่ขอรอช้า หยิบ 13 หนังสยองขวัญที่ดีที่สุดตลาดกาล ที่เรารับประกันความสั่นประสาท เขย่าขวัญจนจับไข้มาปัดฝุ่นให้สาว ๆ จดไว้กลับไปเปิดดูตอนกลางคืน ใครยังไม่รู้ว่าจะหาหนังสยองขวัญเรื่องไหนมากรี๊ดให้หัวโกร๋น ตามไปดูกับเราได้เลย!

หนังสยองขวัญ

1. The Other (2001)

หนังสยองขวัญที่ติดโพลแทบจะทุกสำนัก คุมคนดูได้อยู่หมัดด้วยตัวละครที่ดำเนินเรื่องแค่สองตัว! ตัวหนังเล่าเรื่องครอบครัวแม่ลูกสองที่อาศัยอยู่กันตามลำพังในชนบท และเริ่มประสบพบเจอกับสิ่งแปลกประหลาดภายในบ้าน ไฮไลท์อยู่ที่บทสรุปนี่แหละ! จบไม่ซ้ำจำไปจนตายกันเลย

หนังสยองขวัญ

2. The Sixth Sense (1999)

เป็นอีกหนังสยองขวัญที่ติดอันดับแทบทุกสำนัก แถมยังได้เข้าชิงออสการ์หนังยอดเยี่ยมแห่งปีไปอีก ตัวหนังเล่าเรื่องของเด็กชายคนหนึ่งที่มีสัมผัสพิเศษ มองเห็นคนตายได้ ความเจ๋งของหนังไม่ใช่ความน่ากลัวสยดสยอง แต่เป็นการเล่าเรื่องด้วยบรรยากาศทึม ๆ เหมือนนั่งอยู่ในไอหมอกตลอดเกือบสองชั่วโมง โดยที่มีฉากสยองขวัญให้ตกใจไม่กี่ครั้ง อาจเรียกได้ว่า The Sixth Sense เป็นหนังตอนจบหักมุมที่ตราตรึงหัวใจผู้ชมให้อ้าปากค้างคาเก้าอี้ก็เป็นได้

หนังสยองขวัญ

3. The Conjuring (2013)

หนังสยองขวัญตระกูลปราบผีที่เรียกเสียงฮือฮาหลับตาปี๋แห่งทศวรรษ เติบโตมาไล่เลี่ยกับหนังสยองขวัญชื่อดังอย่าง Insidious ช่วงนี้แหละที่เป็นยุคเฟื่องฟูแห่งซีรีส์หนังสยองขวัญไตรภาค ตัวหนังว่าด้วยเหตุการณ์ประหลาดในบ้านของครอบครัวหนึ่งที่ต้องพบกับสิ่งลี้ลับที่ยังคงครอบครองบ้านหลังนั้น เฮี้ยนจัดจนต้องจ้าง “เอ็ด” และ “ลอร์เรน” วอร์เรน สองสามีภรรยานักปีศาจวิทยาเข้ามาสืบคดีนี้ The Conjuring เป็นหนังสยองขวัญว่าด้วยการเปิดศึกระหว่างปีศาจ และพระเจ้า ให้กลิ่นอาย 90’s แบบ The Exorcism หน่อย ๆ แต่บอกเลยว่าประทับใจไม่รู้ลืม โดยเฉพาะซีนของคุณแม่ที่คลานอยู่ชั้นใต้ดิน!

หนังสยองขวัญ

4. The Purge (2013)

ชวนสาว ๆ พลิกพล็อตกันหน่อยสำหรับหนังสยองขวัญซีรีส์ไล่ฆ่าล้างบาปอย่าง The Purge หนังสยองขวัญมันส์ ๆ ที่มีการผูกปมปัญหาให้ตื่นเต้น และมีการหักมุมในเรื่อง พร้อมสอดแทรกข้อคิดจึ้ง ๆ ให้กับสังคมในขณะที่วิ่งล่ากันในเรื่องนี่แหละ The Purge ว่าด้วยครอบครัวแซนดินที่ต้องผ่านเหตุการณ์คืนอำมหิต นั่นคือเทศกาล The Purge เทศกาลล้างบาปประจำปี ที่รัฐบาลกลางประกาศให้อาชญากรรมที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลา 12 ชั่วโมงนี้ของทุกรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการฆาตกรรม  การทำร้ายร่างกาย  การข่มขืน  การปล้น การทำลายทรัพย์สิน ให้ถือว่าไม่ผิดกฎหมาย และบริการของรัฐต่าง ๆ อย่างสถานทีตำรวจ ดับเพลิง รถพยาบาลก็งดการให้บริการอีกด้วย การล้างบาปนี้มีชนชั้นนำ และชนชั้นกลางให้การสนับสนุน แต่กลับกันกับคนทั่วไปอย่างชนชั้นล่าง คนไร้บ้าน หรือคนผิวสี กลับกลายเป็นผู้ที่ง่ายต่อการเป็นเหยื่อของการชำระล้างบาป เห็นได้ชัดว่าตัวหนังพยายามเล่าถึงความไม่เป็นธรรมในสังคมชาวอเมริกันในหลากหลายมิติ ถูกใจเสียจน Helena ขอจัดให้เป็นหนังสยองขวัญขึ้นหิ้งเลยแล้วกัน

หนังสยองขวัญ

5. นางนาก (1999)

หลุดอันดับไม่ได้เด็ดขาดสำหรับหนังสยองขวัญสุดคลาสสิกของไทยเรื่องนี้ “นางนาก” หนังผีที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงจาก “แม่นาคพระโขนง” มีหลากหลายเวอร์ชันจนบรรยายไม่หวาดไม่ไหว แต่เราขอแนะนำเวอร์ชันที่นำแสดงโดย “อินทิรา เจริญปุระ” และ “วินัย ไกรบุตร” เป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ทำรายได้ทะลุ 150 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นรายได้ที่มหาศาลทีเดียวสำหรับหนังไทยในสมัยนั้น ด้วยโทนภาพ การจัดแสง บรรยากาศที่น่าขนลุกของพระโขนงใน บวกด้วยดนตรีประกอบที่แค่ฮัมขึ้นมาก็หลอนแล้ว ใครยังไม่เคยดูต้องรีบไปจัดด่วน ๆ

หนังสยองขวัญ

6. ผี คน เป็น (2006)

หนังสยองขวัญเรื่องใดที่เล่นกับผีนางรำ เราปัดให้ขึ้นหิ้งหนังสยองขวัญชั้นยอดทั้งหมด! ผี คน เป็น ว่าด้วยเรื่องราวของ “เมย์” หญิงสาวที่มีอาชีพนักแสดงตัวประกอบ เธอมีความฝันว่าสักวันจะต้องเป็นนักแสดงเด่นดังมีชื่อเสียง วันหนึ่ง เมย์รับงานเป็นนักแสดงที่ได้รับบทเป็นติ่งให้กับการทำแผนประกอบคำรับสารภาพให้ตำรวจ ด้วยการแสดงที่สมจริง มีอารมณ์ร่วม และดูไม่น่าเบื่อ ทำให้เมย์เป็นที่สนใจ ชื่นชอบ ของนักข่าว และบางสิ่งที่ไม่อาจรู้ได้ว่ามันคืออะไร นอกจากพล็อตเรื่องที่แปลกใหม่ (และต้องตั้งใจดูดี ๆ) หนังสยองขวัญเรื่องนี้ยังมาพร้อมกับภาพถ่าย หรือ Footage ติดวิญญาณของจริงที่ทำให้เราขนลุกขนพอง พร้อมด้วยการมาเยือนของผีนางรำ ที่มักจะมาพร้อมกับอินโทรดนตรีไทยสุดหลอน แค่พูดก็น้ำตาจะไหลแล้วค่ะคุณพี่

หนังสยองขวัญ

7. 1408 (2007)

หนังสยองขวัญสุดคลาสสิกที่เราขอยกให้เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของเฮีย John Cusack ตัวหนังเล่าเรื่องของชายผู้หนึ่งที่ได้เข้าไปพักอาศัยในห้องของโรงแรมที่มีห้องพิเศษ เค้าว่ากันว่าไอเจ้าห้องนี้ เมื่อใครเข้าไปอยู่ ก็ไม่เคยได้กลับออกมาแบบมีชีวิตรอดอีกเลย ตัวหนังล้อเล่นกับปมในชีวิตของพระเอกอย่างเรื่องลูก แถมฉากผีที่ออกมาอาละวาดก็ทำออกมาได้ไม่ไก่กา ผีซ้อนผี จะหนีก็ไม่ได้ ทำเอาเราหลอนการนอนโรงแรมไปพักหนึ่งเลย

หนังสยองขวัญ

8. ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2004)

ไม่มีใครไม่รู้จัก ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ เรื่องราวของช่างภาพหนุ่ม และแฟนสาวของเขาที่ค้นพบเงาลึกลับในภาพถ่ายหลังจากเกิดอุบัติเหตุอันน่าเศร้า แต่ปมที่ทำให้ผีสาวต้องตามพวกเขานั้นคืออะไรต้องไปติดตามดูค่ะ! ชัตเตอร์เป็นหนังสยองขวัญสัญชาติไทยแท้ที่เขย่าประสาทด้วยพล็อตสุดทึ่ง ครองใจชมรมเรารักหนังสยองขวัญไปทั่วจักรวาล การันตีด้วยการขายลิขสิทธิ์ไปได้ถึง 30 ประเทศทั่วโลก Helena เองก็ติดตามเวอร์ชัน Remake มาหลายประเทศ บอกเลยว่าของเราเนี่ยแหละที่สุด!

หนังสยองขวัญ

9. อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต (2002)

ยุค 20’s ต้น ๆ นี่เป็นยุครุ่งเรืองของอาณาจักรหนังสยองขวัญไทยเลยก็ว่าได้ มีความ old school เล็ก ๆ ภาพอาร์ตหน่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนเห็นผี ผีสามบาท (กับท่อนแขนนางรำอันตราตรึง) หรือจะอารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต หนังสยองขวัญอีกเรื่องที่เรายกให้เป็นสุดยอดหนังสยองขวัญคลาสสิกของไทย หนังเรื่องนี้พิเศษด้วยการเป็นหนังสยองขวัญ 3 เรื่องจาก 3 ประเทศ โดย 3 ผู้กำกับภาพยนตร์ ได้แก่ เกาหลี ไทย และฮ่องกง รับรองความหลากหลายทางอารมณ์ สาว ๆ จะได้สัมผัสลายเซ็นของหนังสยองขวัญแต่ละประเภทที่ให้บรรยากาศสุดแสนจะแตกต่างกัน ช็อตเด็ดต้องยกให้ผีสาวที่ยืนแคะสมอง สยองอารมณ์ที่สุด แต่ผีไทยที่นั่งบนขื่อนี่เราดูแล้วซี้ดปาก กลายเป็นภาพจำจนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว

หนังสยองขวัญ

10. Hereditary (2018)

ขอปิดท้ายด้วยหนังสยองขวัญพล็อตสดใหม่ที่ต้องอาศัยการตีความหน่อยนึง Hereditary นั้นว่าด้วยปีศาจที่สิงสู่อยู่ในสถาบันครอบครัว และถูกส่งต่อไปเรื่อย ๆ ยังลูกหลาน ความน่ากลัวของ Hereditary ไม่ใช่ผีตุ้งแช่ แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์กดดันที่คาดเดาไม่ได้มากกว่าจะเป็นเรื่องลี้ลับ รวมไปถึงความสยองขวัญที่คิดมาดีแล้วว่าจะให้มันเกิดขึ้นกับร่างกายอย่างนกหัวขาด หรือซีนรุนแรงต่าง ๆ ที่เราไม่อยากสปอยล์ เสน่ห์ของหนังสยองขวัญเรื่องนี้อยู่ที่การคุมจังหวะการเล่าเรื่อง องค์ประกอบภาพ การเล่นกับแสง และเงาได้อย่างน่าติดตาม

ใครว่าหนังสยองขวัญต้องถูกจำกัดอยู่ที่ผีสางนางไม้ แต่ไม่ว่าจะเป็นแวมไพร์ ซอมบี้ โขกสับ ไล่ฆ่า จิตวิทยาที่ชวนเราดิ่งต่างก็เป็นหนังสยองขวัญที่ชวนเขย่าประสาทด้วยกันทั้งนั้น ฮัลโลวีนนี้ลองเปลี่ยนจากออกล่าปาร์ตี้ มาเปิดหนังสยองขวัญเริด ๆ ที่เราคัดมาให้แล้วก็ดีนะ