Search
Close this search box.
ชอปปิ้งอย่างมีสติ

นักชอปมีคลาสต้องใช้! วิธีชอปปิ้งอย่างมีสติ
คุ้มค่าแล้วแฮปปี้ด้วย

เห็นหัวข้อแล้วกันแล้วสาว ๆ หลายคนก็คงจะรีบพุ่งคลิกเข้ามาอ่าน เพราะ เวลาผู้หญิงอย่างเราชอปปิ้งกันเนี่ยมักจะไม่ค่อยมีสติกันสักเท่าไหร่ แพ้คำว่า Sale! เลยทำให้กระเป๋าฉีกตลอดไม่ว่าจะกับร้านไหนก็ตาม แต่เอ๊ะ… การชอปปิ้งนี่มันมีกฎ กติกา มารยาทด้วยหรอ ซึ่งเรามักคิดว่ามันเป็นกิจกรรมคลายเครียดที่ช่วยผ่อนคลายได้ทุกปัญหา วันนี้เราเลยจะมาแชร์ วิธีชอปปิ้งอย่างมีสติ ที่จะช่วยให้ง่ายต่อตัวเราและไม่เป็น Toxic กับผู้อื่น นอกจากจะทำให้สบายใจและมีสติแล้ว ยังได้แต่ของที่คุ้มค่า และเสียเงินไปอย่างแฮปปี้อีกด้วย

ไม่มีสติในการชอปปิ้ง เกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ

ของมันต้องมี

ชอปปิ้งอย่างมีสติ มักไม่เกิดขึ้นจริงในจังหวะนั้น เพราะจะมีความคิดที่ว่า…

  • เดี๋ยวก็ใส่ได้
  • ซื้อไปเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเอง สุดท้ายกลับไม่เคยเกิดขึ้นเลย
  • ทุกคนเขาก็มีกัน
  • เหลือชิ้นสุดท้ายแล้ว
  • ชิ้นนี้คนดังเขาใส่กัน
  • ป้ายแดงที่มีคำว่า ‘Sale’

เราก็จะโดนสะกดจิตด้วยคำเหล่านี้ทำให้ยื่นทั้งเงินและบัตรเครดิตไปอย่างงง ๆ โดยเงินที่เรา Spend ไปนั้นไม่ใช่ Budget หรือวงเงินที่เราสามารถทำได้ สังเกตได้จากพฤติกรรมการชอปปิ้งของตัวเอง หากต้องแบ่งค่าเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ออกเป็นบัตรเครดิตหลาย ๆ ใบ แปลว่า นั่นไม่ได้อยู่ในวงเงินที่เราสามารถใช้ได้แล้ว

อีกหนึ่งเรื่องสำคัญก็คือ อย่าชอปปิ้งในเวลาที่จิตใจไม่ปกติ เช่น หิว โมโห หรือทะเลาะกับแฟนมา เพราะน่าจะเป็นภาพเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ ถ้าทะเลาะกันให้กลับบ้านไม่ชอปปิ้ง ถ้าหิวให้ไปกินข้าว บางทีถ้ากินอิ่มแล้วอาจจะไม่อยากชอปปิ้งต่อก็ได้ ไม่เสียเงิน แถมไม่ต้องเป็นงงกับตัวเองอีกด้วยว่า นี่ฉันซื้ออะไรมาเนี่ย!

ชอปปิ้งอย่างมีสติ จัดสรรการเงินให้ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองชอบ
ได้ของดี คุ้มค่าแก่การเสียเงิน

My Wishlist

หากรู้ว่าตัวเองเป็นคนชอบชอปปิ้ง การชอปปิ้งอย่างมีสติ ต้องจัดสรรการเงินหรือวางแผนออมเงินอย่างไรให้ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองชอบ เริ่มต้นจาก

  • การสร้าง Wishlist ของตัวเองขึ้นมาก่อนว่าเราอยากได้ของชิ้นนี้ ซึ่งถ้าเราอยากจะชอป อยากจะกิน อยากจะเที่ยว หรืออยากจะทำอะไร เราต้องวางแผนทางการเงินเสมอ แต่คำแนะนำคือ Wishlist ของเราต้องเป็นของที่สามารถใช้ได้นานคุ้มค่ามากที่สุด หรือเป็นของที่เรารู้ว่าเราจะได้ใช้อย่างคุ้มค่า
  • หารจำนวนวันที่ใช้ ว่ามันคุ้มค่าไหม แต่ถ้าเราซื้อของที่คลาสสิก ใช้ได้ทุกวัน ทุกโอกาสสถานการณ์ แมทซ์ได้กับทุกชุด ไม่ว่าจะใส่ไปทำงานหรือเที่ยวเล่นก็ตาม แล้วหารจำนวนครั้งที่ใช้ไป เช่น ของราคา 2,000 บาท แต่เราสามารถใช้ได้ทั้ง 30 วัน ราคาก็ตกอยู่ไม่กี่บาท แล้วลองคิดดูว่าเราอยากจะใช้เงินจำนวนนั้นกับของชิ้นนี้ไหม
  • จัดสรรบัตรเครดิต สำหรับชอปปิ้ง แต่ต้องอยู่ในวงเงินที่เราสามารถจ่ายไหวด้วยนะ การมีบัตรเครดิตเอาไว้ชอปปิ้งเนี่ยก็เพราะว่า มันมีให้สะสมคะแนน หรือสิทธิพิเศษสำหรับบัตรธนาคารนั้น ๆ อยู่ อาจทำให้เราได้ของในราคาที่คุ้มกว่า
  • ตั้ง Budget ชอปปิ้งอย่างมีสติ ให้กำหนดวงเงินในการชอปปิ้งครั้งนี้ไว้เลยว่า ฉันจะชอปในจำนวนเงิน 5,000 บาท แล้วเราก็ใช้มันได้อย่างเต็มที่ ชอปให้กระจุยไปเลย (อยู่บนพื้นฐานความจริงด้วยนะ)
  • แต่งตัวไปชอปปิ้งให้เหมือนแต่งตัวไปสนามบิน วิธีชอปปิ้งหากรู้ว่าวันนี้เราจะออกไปชอป ให้จำไว้เสมอว่า แต่งตัวไปชอปปิ้งให้เหมือนแต่งตัวไปสนามบิน คือ ถอดง่าย สบาย และไม่ควรแต่งหน้าเยอะ เพราะ เวลาลองจะไปเลอะเสื้อผ้าเขาได้ อย่างคราบรองพื้นเนี่ยจะเห็นกันเป็นประจำ แล้วเครื่องสำอางไม่ใช่เอาอะไรมาเช็ด ถูแล้วจะออก ต้องซักอย่างเดียวเท่านั้น แนะนำให้ใส่เสื้อเชิ้ต เพื่อความสะดวกต่อการเปลี่ยนชุด หน้าไม่เลอะ ผมไม่พัง และที่สำคัญ รองเท้าต้องใส่สบาย ให้ใส่รองเท้าคู่ที่ใส่เป็นประจำ เพื่อลองกับชุดเป็น Total look ไปเลยทีเดียว
  • ไปห้างในเช้าวันจันทร์ ไปชอปเปิดห้างในเช้าวันจันทร์ เป็นเคล็ดลับของวิธีชอปปิ้งเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เชื่อเถอะว่าเราจะสบายใจและมีความสุขในการชอปปิ้งเพิ่มมากขึ้น เพราะ ร้านค้าจะโล่ง คนน้อย ไม่ต้องแย่งชิง ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย สินค้าทดลองถูกจัดเรียงสวยงาม มีสี มีไซซ์ ครบถ้วน
  • เช้าวันจันทร์ VS เย็นวันศุกร์ เคยเจอไหมเวลาต่อแถวรอเข้าห้องลองเสื้อผ้า แต่ดันโดนแซงคิวซะได้ วิธีแก้มีสองทาง คือ ไม่เลี่ยงก็ต้องทน เพราะ เป็นเรื่องยากที่เราจะไปแก้ไขมนุษย์แซงคิวเหล่านี้ บางคนก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติ มาก่อนได้ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราจะคาดหวังให้อีกฝ่ายมีจิตสำนึกในเย็นวันศุกร์ ดูจะเป็นเรื่องที่ยากเอามาก ๆ ฉะนั้นถ้าเราเป็นคนที่ไม่ชอบอะไรแบบนี้ก็ให้เลี่ยงไปชอปปิ้งในเช้าวันจันทร์ หรือถ้าเลือกหนทางอดทนก็จงไปในเย็นวันศุกร์
  • โทรศัพท์ตัวร้าย V.1 เคยไหมเดิน ๆ ชอปปิ้งอยู่ก็เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ เจอรีวิวเครื่องสำอาง แจกพิกัดเสื้อผ้า Sale เห็นข่าวโปรโมชันร้านดังไม่หยุดหย่อน ทีนี้ล่ะกิเลสมาเต็ม ชอปปิ้งอย่างมีสติ หรอ ฝันไปเถอะ ข้อนี้เอาเป็นว่าถ้ามีกำลังซื้อก็จัดเลย

ชอปปิ้งอย่างมีสติ เป็นนักชอปมีคลาส
สบายใจเราแล้วสะดวกคนอื่นด้วย

1.โทรศัพท์ตัวร้าย V.2

ชอปปิ้งอย่างมีสติ ด้วยการงดใช้โทรศัพท์ขณะชอปปิ้ง เพราะ จะทำให้สติลดน้อยลง หยิบผิดไซซ์บ้าง ผิดสีบ้าง หรือหยิบอะไรมาแบบไม่รู้ตัว ลืมเก็บใบเสร็จบ้างล่ะ ทำให้จะเอาสินค้าไปเปลี่ยนก็ทำไม่ได้ เสียเงินไปหลายบาท เพราะ ใช้โทรศัพท์นี่แหละ เชื่อเถอะว่าสาว ๆ จะต้องอยากเสพสุขในการชอปปิ้งอย่างเต็มที่ ได้ลองเสื้อผ้า ลองเครื่องสำอางอย่างแฮปปี้ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ใช้โทรศัพท์หน้าเคาน์เตอร์จ่ายเงิน ทำให้ทุกคนต้องช้าไปทั้งหมด แถมแถวยังยาวไปอีก กว่าจะหยิบบัตรเครดิตให้ถูกใบ หรือหยิบเงินให้ครบ อีกทั้งต้องคุยโทรศัพท์อีก หากใครที่เจอสถานการณ์แบบนี้ คงทำได้แค่สองอย่างคือ เปลี่ยนเคานเตอร์ หรือไม่ก็รอต่อไปนะจ๊ะ

2.อย่าทำคอนเทนต์ในห้องลองเสื้อผ้า

จริง ๆ แล้วข้อนี้ก็ไม่ใช่ข้อห้าม แต่เป็นมารยาทและเหตุการณ์จริงที่หลายคนคงเคยเจอ คือ เอาเสื้อผ้าเข้าไปลองแล้วมัวแต่ถ่ายรูปบ้าง ทำการฟิตติ้งเสื้อผ้าบ้าง บางคนก็ Mirror Selfie หรือทำคอนเทนต์แบบเรียลไทม์ ถ่ายแล้วแต่งรูปในห้องลองเพื่อลงโซเชียลเลยก็มี ยิ่งโดยเฉพาะเวลาที่แถวรอคิวใช้ห้องลองยาวมาก มีคนรอใช้เยอะก็ไม่ควรทำ วิธีชอปปิ้งนี้ก็แล้วแต่คน ใครที่อยากทำก็ทำได้แต่ก็อย่าลืมดูสถานการณ์ขณะนั้นกันด้วยนะคะ

3.Tester เครื่องสำอางไม่ควรอยู่บนหน้าเรา

ชอบนักล่ะกับการลอง Tester เครื่องสำอางลงบนใบหน้าเลย โดยใช้ Applicator ที่เป็นของสาธารณะ ไม่ควรอย่างยิ่งนะคะสาว ๆ เพราะ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าลิปสติกแท่งนั้นได้ไปอยู่บนริมผีปากของใครและผ่านอะไรมาบ้าง โดยมีเหตุการณ์จริงของ Scott Barnes เป็น Makeup Artist ชื่อดัง เคยเอา Tester ลิปสติกมาลองที่หลังมือ แล้วก็เป็นรา OMG! ฉะนั้นแล้วไม่ว่าทาง Makeup Counter จะทำความสะอาดขนาดไหนแล้วก็ตาม จงท่องไว้เสมอว่า ของใช้ที่จะมาอยู่บนหน้าเรา ไม่ควรเป็นของสาธารณะ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์รอบดวงตา เช่น มาสคาร่า เพราะอาจทำให้ตาติดเชื้อได้ ไม่คุ้มเอาซะเลย

แนวทางการชอปปิ้งอย่างมีสติทั้งหมดนี้ นอกจากจะเป็นการใส่ใจ มีมารยาทต่อคนและพื้นที่ส่วนรวมแล้ว ลองคิดง่าย ๆ แล้วกันว่า ใจเขาใจเรา เพียงนำวิธีชอปปิ้งนี้ไปใช้ เราก็จะเป็นนักชอปมีคลาสขึ้นมา แล้วการชอปปิ้งนี้จะทำให้เราแฮปปี้มากขึ้นเป็นกองเลยล่ะ

SHARE

RELATED POSTS