Search
Close this search box.
อนิเมะ Studio Ghibli

7 สุดยอดอนิเมะ Studio Ghibli อบอุ่นหัวใจ สะท้อนสังคม

การเป็นผู้ใหญ่บางทีก็โหดร้ายใช่มั้ยล่ะคะ? ในบางวันเราก็อยากย้อนกลับไปเป็นเด็กที่ไม่ต้องคิดอะไร งั้น Helena ขอชวนสาว ๆ ทุกคนมาย้อนวัย ได้แวะเติมความชุ่มฉ่ำ และอบอุ่นให้หัวใจในหน้าฝนนี้ ด้วย 7 สุดยอดอนิเมะ Studio Ghibli ที่ไม่เพียงแต่ทำให้เราได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็ก แต่ยังแฝงไปด้วยประเด็นสะท้อนสังคมให้ได้ตกตะกอนความคิดอีกด้วย

การเดินทางของ Studio Ghibli

Studio Ghibli (สตูดิโอ จิ-บลิ) เป็นเหมือนค่ายอนิเมะที่ได้ฉายาว่าเป็นวอลท์ ดิสนีย์แห่งญี่ปุ่นเลยทีเดียว ก่อตั้งโดย ฮายาโอะ มิยาซากิ นักอนิเมเตอร์ผู้มีส่วนร่วมในการ์ตูนอนิเมชั่นญี่ปุ่นยุคเริ่มแรก และประสบความสำเร็จอยู่หลายเรื่อง โดยที่คุณมิยาซากิมีความตั้งใจที่จะสร้างการ์ตูนตามแบบฉบับของตัวเอง ในที่สุด เค้าก็ได้ก่อตั้ง  Studio Ghibli ขึ้นมาในปี ค.ศ. 1985 โดยชื่อ ‘จิบลิ’ มาจากเครื่องบินตรวจการณ์ของประเทศอิตาลีที่ใช้ในทะเลทรายซาฮาราในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง และคำนี้ก็มีที่มาจากคำในภาษาลีเบียน แปลว่า ลมร้อนที่พัดผ่านทะเลทรายซาฮารา เปรียบได้กับ Studio Ghibli ที่พัดพากระแสลมลูกใหม่ผ่านมายังอุตสาหกรรมอนิเมะของญี่ปุ่น และสร้างอนิเมะที่เป็นที่จดจำ และตราตรึงในใจใครหลาย ๆ คน

อนิเมะ Studio Ghibli

My Neighbors the Yamadas (ホーホケキョとなりの山田くん)

อนิเมะ Studio Ghibli ในยุคแรก ๆ ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวที่ สาว ๆ จะต้องยิ้มไปกับเรื่องราวสุดแสนธรรมดาของครอบครัวยามาดะที่ใช้ชีวิตผันเปลี่ยนไปตามแต่ฤดูกาล ไม่ได้มีอะไรพิเศษนัก โดยในแต่ละตอน ก็จะมีเรื่องราวที่ครอบครัวยามาดะต้องเผชิญแตกต่างกันไป แต่อนิเมะเรื่องนี้ จะทำให้สาว ๆ สัมผัสถึงความหมายของคำว่า ‘ครอบครัว’ และให้เราได้ตกตะกอนทางความคิดไปพร้อม ๆ กัน

อนิเมะ Studio Ghibli เรื่องนี้ เล่าเรื่องราวโจ๊ก ๆ ของครอบครัวยามาดะผ่านลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นตอน ๆ ไม่ต่อเนื่อง แต่นอกจากความขบขันแล้ว ครอบครัวยามาดะยังคงสะท้อนให้เราเห็นถึงความงดงามของสายใยครอบครัว ที่แม้จะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นสิ่งที่เรียบง่าย และเข้าใจได้ เพราะว่าพวกเขาเป็นคนในครอบครัวนั่นเอง Helena อยากชวนให้สาว ๆ ได้เห็นถึงความตั้งใจในการสอดแทรกบทกลอนญี่ปุ่น รวมถึงอนิเมะเรื่องนี้ยังสะท้อนการใช้ชีวิตแบบครอบครัวของคนญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ทั้งบทบาทของพ่อ แม่ หรือลูก หากกำลังมองหาอนิเมะ Studio Ghibli ที่ดูกันได้ทั้งครอบครัว ก็ต้อง My Neighbors the Yamadas เลยค่ะ

อนิเมะ Studio Ghibli

Only Yesterday (おもひでぽろぽろ)

เราเคยพูดถึง Only Yesterday ไปแล้วใน 7 ลิสต์อนิเมะญี่ปุ่น ที่ซ่อนอะไรไว้มากกว่าความสนุก แต่เพราะ Only Yesterday ดีจัด ๆ จนเราต้องกล่าวถึงอีกครั้ง Only Yesterday เป็นอนิเมะ Studio Ghibli ที่ทำให้เราเชื่อว่าทุกอย่างที่เป็นเราในวันนี้ ก็มีอิทธิพลมาจากการตัดสินใจทำอะไรสักอย่างในวัยเด็กของเรา ใครไม่ใช่สายอนิเมะแฟนตาซี จะต้องชอบอนิเมะแบบ Non-fantasy ที่น่าสนใจเรื่องนี้ค่ะ เป็นเรื่องของทาเอโกะ สาวออฟฟิศวัย 27 ปี ที่กำลังเบื่อการที่ต้องทำงานแลกเงินเดือนไปวัน ๆ เธอมีความใฝ่ฝันในการที่จะมีบ้านที่ชนบทให้ได้กลับไปใช้ชีวิตมาโดยตลอด แม้ตอนเด็กจะมีโอกาสได้ไปใช้ชีวิตที่บ้านชนบทของญาติบ้าง แต่ก็แค่ชั่วคราว เธอจึงได้ขอพี่เขยกลับไปช่วยทำการเกษตรที่ชนบท และประทับใจอย่างบอกไม่ถูก จนต้องขอลางานถึง 10 วันเพื่อกลับไปอีกครั้ง แล้วครั้งนี้เอง ที่ช่วยกวนตะกอนความทรงจำวัยเด็กของเธอให้กลับมาฟุ้ง และทำให้ตัดสินที่จะใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง

อนิเมะ Studio Ghibli เรื่องนี้ ไม่เพียงแต่สะท้อนแนวคิดของคนเมือง แต่ยังพาเราย้อนกลับไปพบกับ ‘ความรู้สึกแรก’ อย่างการเป็นเมนส์ครั้งแรกในวัยเด็ก ที่อะไรก็เขินไปซะหมด หรือการแอบรักครั้งแรกในชีวิตเด็กประถมที่บริสุทธิ์ และไร้เดียงสา Only Yesterday จะทำให้เราน้ำตาซึมไปกับวันวานที่แสนคิดถึง ยิ่งฉากสุดท้ายก่อน Credit จบจะขึ้นนี่น้ำตาไหลพรากแน่ ๆ อย่าลืมไปดูกันน้า

อนิเมะ Studio Ghibli

Spirited Away (千と千尋の神隠し)

อนิเมะ Studio Ghibli ปี 2001 เรื่องนี้ เป็นเรื่องราวของเด็กหญิงชั้นประถม จิฮิโระ ผู้ซึ่งกำลังหงุดหงิดที่เธอต้องย้ายบ้านตามพ่อแม่ไปอยู่นอกเมือง ซึ่งระหว่างการเดินทางเพื่อย้ายบ้านนั้น พวกเขาได้พบกับสถานที่และอุโมงค์ลึกลับ ที่เป็นเหมือนจุดเปลี่ยนของเธอไปตลอดกาล อนิเมะเรื่องนี้ยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ เกรียงไกรแค่ไหน ดูได้จากการที่เป็นอนิเมะฝีมือคนเอเชียเรื่องเดียว ที่ได้รับรางวัลออสก้า สาขาอนิเมชั่นยอดเยี่ยมเเห่งปี ด้วยภาพที่สวยงาม ละเอียด คงความเป็นญี่ปุ่นแบบเต็มเหนี่ยว และกาลเวลาไม่มีผล เพราะภาพยังสดคมร่วมสมัย แต่เพราะภาพสวยอย่างเดียว ก็คงไม่ทำให้อนิเมะ Studio Ghibli เรื่องนี้ได้ออสก้าหรอกนะ แต่ความลึกล้ำของอนิเมะเรื่องนี้ อยู่ที่การตีความให้ลึกซึ้งค่ะ

Spirited Away อนิเมะแฟนตาซีที่อาจจะดูเพ้อฝันหน่อย ๆ แต่เค้าแฝงไปด้วยสัญลักษณ์ ปรัชญา และการจิกกัดสังคมแบบเจ็บจนแอบจุกอยู่ โดยเฉพาะประเด็นโครงสร้างทางสังคมในญี่ปุ่น ที่เรารู้กันดีว่าเป็นเรื่องที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และเคียงข้างชาวญี่ปุ่นมาโดยตลอด แต่ที่เราชอบมาก คือการสอดแทรกประเด็น Coming of Age หรือปัญหาในช่วงวัยรุ่น ที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งสิ่งที่เธอ หรือเขาพบเจอ อาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจ และแปลเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กได้ แต่ที่แน่ ๆ ทุกคนจะได้เรียนรู้ว่า เมื่อรู้จักให้ผู้อื่น แล้วจะได้รับกลับมาเอง

มีคำแนะนำว่า อนิเมะ Studio Ghibli เรื่องนี้ไม่ควรดูเพียงรอบเดียว เพราะดูรอบแรกอาจจะงง แถมไม่เก๊ทไปอีก ว่าเนื้อเรื่องแบบนี้น่ะหรอที่ได้ออสก้า? แต่เราเชื่อว่า การดูอนิเมะในวัยเด็ก ความรู้สึกก็จะแตกต่างกันออกไปเมื่อเรากลับมาดูมันในวัยผู้ใหญ่อีกครั้ง การตีความก็จะเปลี่ยนตามแต่ละช่วงวัย เพราะงั้นเราต้องไปหาคำตอบให้เข้าใจด้วยการดูซ้ำค่ะ!

อนิเมะ Studio Ghibli

My Neighbor Totoro (となりのトトロ)

ขึ้นหิ้งอนิเมะ Studio Ghibli สุดคลาสสิก ที่แม้รายได้เมื่อเริ่มฉายจะไม่ได้มากมายนัก แต่กลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของ Studio Ghibli จนถึงขั้นสร้างมาสคอตเลย อนิเมะเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสองพี่น้องที่ติดตามพ่อมาอยู่ชนบท เพื่อจะได้อยู่ใกล้ ๆ แม่ ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ทั้งสองได้พบกับโทโทโระ สิ่งมีชีวิตที่จะว่าประหลาดก็ใช่ แต่ก็น่ารักไม่น้อย โทโทโระได้นำเด็ก ๆ ทั้งสองเข้าสู่โลกของเหล่าภูติ และจินตนาการอันน่าอัศจรรย์

อนิเมะ Studio Ghibli เรื่องนี้ ยังคงสอดแทรกประเด็น Coming of Age ที่เด็ก ๆ กำลังมีความสุขในโลกเหนือจินตนาการ แต่ในขณะเดียวกัน ในโลกของความเป็นจริง พวกเธอก็ต้องต่อสู้กับความรู้สึกที่แม่กำลังป่วยอยู่ เด็ก ๆ ดูได้ ผู้ใหญ่ก็ดูดีค่ะ นอกจากความเพลิดเพลินแล้ว ประสบการณ์ที่มากขึ้นของเรา ก็จะทำให้ได้รับมุมมองที่แตกต่างออกไป และเข้าใจในสิ่งที่อนิเมะกำลังสื่อมากขึ้น

อนิเมะ Studio Ghibli

The Wind Rise (風立ちぬ)

สาว ๆ หลายคนน่าจะเคยเห็นโปสเตอร์อนิเมะ Studio Ghibli เรื่องนี้กันมาบ้าง เพราะเป็นเรื่องที่ได้เข้าชิงรางวัลระดับโลกหลายสถาบัน และเป็นอนิเมะแนวดราม่าเกี่ยวกับชีวิต ที่กาลเวลาล่วงเลยมานานก็ยังคงได้รับคำยกย่องชมเชยอยู่ เรื่องราวใน The Wind Rise ดัดแปลงมาจากชีวประวัติของ จิโร่ โฮริโคชิ วิศวกรผู้ออกแบบเครื่องบินของญี่ปุ่นรุ่นสำคัญ ซึ่งต่อมาได้ถูกนำนำมาใช้ในสงครามโลกจริง ๆ ตัวเรื่องจึงมีแฝงความ Realistic และอิงความจริงสูง มีการสอดแทรกเหตุการณ์บ้านเมืองอย่างเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่คันโต ในเรื่องยังสะท้อนสังคมญี่ปุ่นในยุคนั้น ไปจนถึงความแตกต่างด้านชนชั้นที่ยังมีอยู่จริง

นับว่าเป็นอนิเมะ Studio Ghibli ที่แฝงความเป็นชาตินิยมสูง อนิเมะเรื่องนี้เด็ก ๆ อาจจะไม่อิน แต่ Helena คิดว่าสาว ๆ ของเราอาจจะเข้าใจได้เป็นอย่างดีเชียวค่ะ

อนิเมะ Studio Ghibli

From Up on Poppy Hills (コクリコ坂から)

ผลงานอนิเมะ Studio Ghibli ในยุค 90’s อีกเรื่อง ที่บอกเล่าความรักของคู่รักวัยรุ่นในวัยมัธยม รวมถึงการค้นหาความฝัน และมุ่งทำให้สำเร็จ ช่วงเวลาของอนิเมะเรื่องนี้ จะเป็นในสมัยที่ญี่ปุ่นกำลังฟื้นฟูประเทศจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และกำลังเรียกจิตสำนึกรักบ้านเกิดให้กลับมา พล็อตอาจจะเรียบง่ายสไตล์การเล่าเรื่องราวชีวิต ที่มี Background ในแบบญี่ปุ่นยุคเก่า ที่ผู้คนในสังคมต่างมีจิตสำนึกรักประเทศ และให้ความสำคัญกับชาตินิยม อ่านไปอ่านมาก็ทำให้นึกถึงนวนิยายไทยเรื่อง สี่แผ่นดิน ที่ก็นำเสนอความรักชาติ และความชาตินิยมของคนในสังคมเช่นกัน

อนิเมะ Studio Ghibli เรื่องนี้ เน้นนำเสนอของ Power of Youth ในการที่กล้าจะลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่าง อาจจะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ยืนหยัดในความคิด หรืออะไรก็แล้วแต่ นับว่าเป็นอนิเมะที่สร้างแรงบันดาลใจ และทำให้เราหวนคิดไปถึงตัวเองในอดีต ว่าเคยลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อสิ่งที่ตัวเองยึดมั่นบ้างหรือไม่ แต่ว่า From Up on Poppy Hills ไม่ได้เป็นหนังแห่งอุดมการณ์ที่ดราม่าจ๋าขนาดนั้นหรอกนะ มีการแทรกพล็อตโรมานซ์แบบบ้าน ๆ เข้าไปให้ไม่หนักจนเกิดอนิเมะ แต่ก็เป็นอีกหนึ่งอนิเมะเสน่ห์ล้นจาก Studio Ghibli ที่เราอยากแนะนำ

อนิเมะ Studio Ghibli

Howl’s Moving Castle (ハウルの動く城)

Howl’s Moving Castle เป็นอนิเมะ Studio Ghibli อีกเรื่องที่มีชื่อเสียง ขอรวบสั้น ๆ ว่า Howl’s Moving Castle เป็นเรื่องราวของโซฟี หญิงสาวที่ถูกคำสาปทำให้ต้องกลายเป็นหญิงชรา ได้มาพบกับ ฮาวส์ พ่อมดหนุ่มสุดหล่อแต่ปากเสีย แถมหยิ่งยโสอีโก้ล้นทะลัก และเป็นเจ้าของปราสาทลอยฟ้า โลเคชั่นสำคัญของเรื่อง ตัวอนิเมะเรื่องนี้เป็นผลงานที่ดัดแปลงมาจากนิยายตะวันตก มีความโรแมนติกปนแอ็กชัน และผสมกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นลงไปอย่างพอดี จุดที่ทำให้เรื่องน่าติดตาม คือพัฒนาการของโซฟี ที่อายุของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปตามความคิดอ่านของตัวเธอเอง

Howl’s Moving Castle คลอดออกมาหลังจากที่ Spirited Away สร้างความสำเร็จไว้อย่างถล่มทลาย แม้องค์รวมของเรื่องอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบเท่า Spirited Away แต่ Howl’s Moving Castle ก็ไม่ได้ทำให้แฟนอนิเมะ Studio Ghibli ผิดหวัง โดยกวาดรายได้มากเป็นอันดับ 2 ของอนิเมะ Studio Ghibli

Helena เป็นอีกคนหนึ่งที่ผูกพันกับอนิเมะ Studio Ghibli เช่นกันค่ะ หากสาว ๆ มีโอกาสได้ไปญี่ปุ่น อย่าลืมแวะไป Ghibli Museum ที่โตเกียวนะคะ เดินนิดนึงจากสถานี Kichijoji แต่รับรองว่าเพลินมาก เพราะย่านนี้เค้าฮิปสุดแล้วในโตเกียว! แล้วสาว ๆ จะยิ่งรักอนิเมะจาก Studio Ghibli สุดใจเหมือนกับเราค่ะ