Search
Close this search box.
อียิปต์

แกะสูตรความงามเหนือกาลเวลาแบบสาวอียิปต์โบราณ

ความลับสุดมหัศจรรย์ของดินแดนไอยคุปต์หรืออียิปต์โบราณนั้นเลื่องชื่อลือชา ไม่ว่าจะเป็นพีระมิด สฟิงซ์ หรือการรักษาสภาพศพทั้งคนและสัตว์ด้วยสมุนไพร แต่ใครจะไปรู้ว่า ชาวอียิปต์โบราณเธอนำเทรนด์เรื่องความสวยความงามมานานแล้ว บอกเลยว่าทั้งชาย และหญิงทุกชนชั้นต่างประทินผิว ให้ความสำคัญกับการดูแลใบหน้าให้งดงาม อายแชโดว์ และลิปสติกจึงไม่ใช่ของแปลก Helena ไล่เรียงมาให้แล้วว่าในการเตรียมตัวสวยในหนึ่งวันของชาวอียิปต์โบราณนั้นมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

อียิปต์

เตรียมตัวสวยตั้งแต่ตื่นนอน

แน่นอนว่าเบสิกของการดูแลความสวยนั้นต้องเริ่มจากวิธีการดูแลผิวพรรณที่ประณีตละเอียดอ่อน ชาวอียิปต์โบราณเป็นชนชาติแรก ๆ ที่นำศาสตร์แห่งอโรมาเธอราพีมาประยุกต์กับความเชื่อเรื่องเทพเจ้าในการดูแลผิว โดยพวกเธอต้องชำระร่างกายให้สะอาด เติมกลิ่นหอมกรุ่นให้กับผิวโดยวิธีการเผากำยาน เพราะเชื่อว่าควันจะนำพาพวกเธอไปสู่เทพเจ้า โดยปัจจุบันก็ยังมีคนที่นำวิธีนี้มาใช้อยู่ เพราะยึดหลักความงามจากภายในที่สามารถเปล่งประกายออกมาสู่ภายนอกโดยไม่พึ่งพาสารเคมีที่ทำร้ายผิว

กิจวัตรการประทินผิวของสาวอียิปต์โบราณที่มีอันจะกินในขั้นตอนถัดมา พวกเธอจะขัดผิวด้วยเกลือจากทะเลเดดซี ใช้สครับกาแฟที่ทำจากส่วนผสมธรรมชาติ ได้แก่ ผงกาแฟบด น้ำผึ้งหนึ่งช้อนชา และน้ำมันมะพร้าวหนึ่งช้อนโต๊ะ หรืออย่างน้อยต้องมีการอาบน้ำนม มาสก์หน้าด้วยนม และน้ำผึ้ง ซึ่งชาวอียิปต์เชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะให้กับผิวชั้นดี ก่อนจะจบขั้นตอนด้วยการใช้ดอกไม้ผสมเครื่องเทศเพื่อบำรุงผิวให้เนียนนุ่มขึ้น แล้วขนล่ะ จะปล่อยให้รกรุงรังไหมนะ? ไม่จ้า ชาวอียิปต์เป็นชนชาติแรกที่สร้างแว็กซ์ขนธรรมชาติที่ทำมาจากน้ำตาล และน้ำผึ้ง นำมากวนและปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ก่อนจะนำมากลิ้งไปยังจุดที่ต้องการกำจัดขน ก้อนแว็กซ์จะช่วยกำจัดขนส่วนเกินได้อย่างเนียนกริบทีเดียว 

อายแชว์โด

อายแชว์โด เครื่องสำอางที่มาก่อนการของชาวอียิปต์โบราณ

หญิงชาวอียิปต์ที่เป็นชนชั้นสูงจะมีอุปกรณ์แต่งหน้าที่มาในภาชนะสุดหรูหรา ทำมาจากแก้ว ทองคำ ดีบุกหรือหินมีค่า แกะสลักให้มีลักษณะคล้ายกับสัตว์ หรือเทพธิดา เป็นต้น ซึ่งภาชนะเหล่านี้จะบรรจุไปด้วยขี้ผึ้งทาปาก น้ำหอม สี และน้ำมันทาเปลือกตา และใช่ว่าพวกเธอจะแต่งหน้าเองนะ พวกเธอจะมีคนรับใช้ที่ดูแลพิธีกรรมปรุงความสวยส่วนตัว เริ่มจากการผสมสี ก่อนจะใช้แปรงที่ทำจากงาช้างจุ่มสีมาเติมบนใบหน้าของเจ้านายแสนสวย

แล้วสีเหล่านั้นมาจากไหน? ผู้ที่ศึกษาด้านอียิปต์โบราณค้นพบว่ามีวัสดุมากมายที่ถูกนำมาทำเป็นเครื่องสำอาง เช่น วัสดุ Kohl หรือผงสำหรับทาเปลือกตา ซึ่งเป็นมากกว่าการเสริมความงาม เพราะ Kohl ยังช่วยปกป้องสายตาจากแสงจ้าของดวงอาทิตย์ และใน Kohl ยังมีส่วนประกอบเป็นแร่ มีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียด้วย, บางตำหนักก็จะผสมแป้งมรกตกับไขมันสัตว์หรือน้ำมันพืช และยังมี Myrrh (เมอห์) ยางไม้ชนิดหนึ่ง ได้จากต้นเมอห์ มีสรรพคุณช่วยสมานแผล รักษาผิวหนังอักเสบ ลดรอยเหี่ยวย่นได้ ชาวอียิปต์จะนิยมนำยางหรือชันจากลำต้นหรือก้านมาเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ และถ้าใช้ในเครื่องสำอางจะช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้ด้วย 

ลิปสติกสีแดง

ทรงพลังด้วยลิปสติกสีแดง

ขั้นตอนสุดท้ายของการแปลงโฉมคือการทาลิปสติกสีแดง ลิปสติกสีแดงฉบับราชินีคลีโอพัตราคือการนำเปลือกแปลงมาบด ก่อนจะผสมกับไขมันสัตว์หรือน้ำมันพืชก็เป็นอันเสร็จ แค่นี้ก็จะได้ลิปสติกสีแดงเฉดสวยตรงใจแล้ว ส่วนชาวบ้านธรรมดา มักจะสร้างสีลิปสติกด้วยการผสมสีเหลืองกับสีย้อมที่สกัดจากไอโอดีน และโบรมีน ซึ่งอาจมีสารพิษที่นำไปสู่การเจ็บป่วยที่รุนแรง จนชาวอียิปต์มีความเชื่อว่า นี่อาจเป็นที่มาของวลี ‘จูบแห่งความตาย’ (Kiss of death) ก็เป็นได้

เคล็ดลับความงาม

เคล็ดลับความงามฉบับคลีโอพัตรา

จะว่าไปแล้ว ความลับการดูแลความสวยฉบับพระนางคลีโอพัตราก็ยังมีมาให้เราได้เล่าอีกนิดหน่อย ความลับในตำนานของเธอก็คือ พระนางชอบอาบน้ำหรือแช่ตัวด้วยน้ำนม และน้ำผึ้ง และปัจจุบันสาว ๆ อียิปต์ก็ยังคงใช้วิธีนี้ในการบำรุงผิวพรรณตัวเอง มีทริคเล็ก ๆ ก็คือ น้ำนมที่ใช้จะเป็นน้ำนมวัวที่ได้มาแบบสดใหม่ทุกเช้า ส่วนน้ำผึ้งจะเป็นน้ำผึ้งที่ดมดอมช่อดอกอะคาเซีย มีคุณสมบัติในการช่วยปรับสภาพผิว ช่วยให้ผิวยึดหยุ่นได้ดีขึ้น ที่ขาดไม่ได้ก็คือการเช็ดหน้าด้วยน้ำกุหลาบทุกเช้าเย็น! น้ำกุหลาบจะทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม บำรุงผิว และให้ความชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ ส่วนเล็บนั้นก็จะปล่อยให้จืดชืดไร้สีสันไม่ได้ พระนางคลีโอพัตราเธอจึงใช้เฮนน่าเป็นยาทาเล็บแบบธรรมชาติ โดยจะย้อมเล็บด้วยเฮนน่า ซึ่งช่วยปกป้องและทำให้เล็บมือมีสีน้ำตาลแดงสวยงาม นับว่าเป็นเคล็ดลับความงามข้ามกาลเวลาเลยทีเดียว

จะเห็นได้ว่าเครื่องประทินผิวของสาวอียิปต์โบราณนั้นได้จากผลผลิตธรรมชาติล้วน ๆ และยังพ่วงเกี่ยวกับความเชื่อที่มีต่อเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย และความเชื่อนั้นก็ยังส่งต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน นับว่าการศึกษาศาสตร์อียิปต์โบราณเป็นศาตร์ที่น่าหลงใหลไม่น้อยเลยนะคะ

SHARE

RELATED POSTS