Animal Print: เสื้อผ้าลายสัตว์
แฟชั่นรสจัดที่ไม่ว่ายุคไหนก็โดน
อีกหนึ่งแฟชั่นที่เรียกได้ว่าอมตะมาตั้งแต่รุ่นแม่และยังส่งต่อลวดลายอันเย้ายวนมาสู่ยุคปัจจุบัน นั่นคือ ‘เสื้อผ้าลายสัตว์’ หรือ ‘Animal Print’ ลวดลายพรางตาที่ไม่เพียงสะท้อนเสน่ห์และสไตล์ที่จัดจ้านของผู้สวมใส่ แต่ยังเป็นตัวแทนสะท้อนพลังบางอย่างจากธรรมชาติที่ส่งต่อถึงผู้คนผ่านผืนผ้าลายพิมพ์สุดเฟี้ยว
เสื้อผ้าลายสัตว์ ตัวแทนแห่งความแข็งแกร่ง
การนำหนังสัตว์มาตัดเป็นเครื่องนุ่งห่มถือเป็นวัฒนธรรมร่วมที่หลายดินแดนทั่วโลกมีร่วมกัน สมัยก่อนนอกจากหนังสัตว์จะเป็นวัตถุดิบที่ทนทานและหาได้ง่ายกว่าเส้นไยที่นำมาถักทอเป็นผ้าแล้ว ผู้คนในอดีตยังมีความเชื่อด้วยว่า เสื้อผ้าที่ทำจากหนังสัตว์ สามารถถ่ายทอดพลังบางอย่างให้กับผู้สวมใส่ได้ หนังสัตว์จึงกลายมาเป็นเครื่องมือแสดงอำนาจของผู้นำทั่วโลก เช่น ผู้นำชนเผ่าแถบแอฟริกันที่นิยมสวมชุดที่ทำจากหนังสัตว์ และนำชิ้นส่วนอวัยวะของพวกมันมาทำเป็นเครื่องประดับ ส่วนทหารของพระเจ้านโปเลียนมหาราช แห่งฝรั่งเศส ก็เลือกใช้หนังสัตว์มาทำหมวกสำหรับออกรบ และใช้อานม้าที่ทำจากหนังเสือดาว
อย่างไรก็เมื่อการเวลาผ่านไปทำให้หนังสัตว์หายากและมีราคาแพงมากขึ้น อีกทั้งกระแสต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์ก็กระจายตัวอย่างแพร่หลาย ทำให้ความนิยมในการนำหนังสัตว์จริงมาทำเสื้อผ้าลดลง แต่ความหลงใหลต่อลวดลายอันแข็งแกร่งทว่าเย้ายวนใจนั้นยังไม่เสื่อมคลาย อุตสาหกรรมการพิมพ์ลายเลียนแบบหนังและขนสัตว์ลงบนผืนผ้า จึงเริ่มเข้ามามีบทบาทในแวดวงแฟชั่นมากขึ้น และกลายเป็นความงามที่สะกดทุกสายตา เมื่อแบรนด์ดังและดาวเด่นจากวงการฮอลลีวูดมากมายเลือกใช้ Animal Print เป็นเครื่องมือดึงดูดความสนใจจากแสงแฟลช
สิ่งที่ตอกย้ำภาพลักษณ์ทรงเสน่ห์ของเสื้อผ้าลายสัตว์
ที่มา : www.underground-england.co.uk
ปี 1947 การเปิดตัวคอลเลกชันเสื้อผ้าลายปริ้นต์เสือดาวของ Christian Dior ได้สร้างเป็นมิติใหม่ให้กับเสื้อผ้าลายสัตว์ จากหนังสัตว์ในอดีตที่เคยถูกตัดเย็บอย่างลวกๆ เอาให้พอแค่ปกปิดและห่อหุ่มเรือนร่างของชายผู้สวมใส่ บัดนี้…บนรันเวย์อันชวนฝันของผู้หญิงทั่วโลก ลวดลายสัตว์แบบดิบๆ ได้ถูกถอดแบบแล้วนำมาปริ้นต์ลงบนผืนผ้า ห่อหุ่มร่างกายชวนเย้ายวนของสตรีที่กำลังเฉิดฉายอวดสายตาแฟนๆ ของแบรนด์ดังแทน พร้อมแพตเทิร์นการตัดเย็บที่ดูซับซ้อน หรูหรา และเซ็กซี่มากกว่าที่เคย
ที่มา : www.gorgeouslyvintage.net
หลังได้รับความนิยมมากขึ้น เสื้อผ้าลายสัตว์ก็ได้สร้างแฟชั่นไอคอนประดับวงการฮอลลีวูดอีกมากมาย ที่โด่งดังที่สุดคงหนีไม่พ้น Marian Nixon นักแสดงสาวชาวอเมริกัน ที่โด่งดังในยุคเดียวกับ Marilyn Monroe และ Elizabeth Taylor โดยภาพที่เธอการปรากฏกายในชุดเสื้อโค้ทซึ่งทำจากหนังเสือดาวแท้จากแบรนด์ MGM ในมือจูงสายคล้องคอเสือดาวตัวเป็นๆ อยู่กลางย่านฮอลลีวูด ของนครลอสแอนเจลลิส ได้ตอกย้ำภาพลักษณ์ให้เธอดูฮอตยิ่งกว่าเดิม Marian Nixon จึงเป็นหนึ่งในต้นแบบที่ผลักดันให้ Animal Print กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของแฟชั่นที่เหล่าดาราสาวหน้าม่านฮอลลีวูดนิยม
และไม่เพียงแต่โลกแฟชั่นเท่านั้น ฟากวงการการแสดงก็มีการนำเอกลักษณ์ของลวดลายที่ดูหน้าเกรงขามมาปรับใช้เช่นกัน โดยนำมาทำเป็นคอสตูมของนักแสดงหญิง เพื่อสะท้อนถึงความมั่นใจและความแข็งแรงของสุภาพสตรี แล้วอาศัยความสามารถในการแสดงที่ออกจะเย้ายวน เติมเสน่ห์ให้เสื้อผ้าลายสัตว์ไปในตัว
ผลจากการออกสื่อที่แพร่หลายทำให้แฟชั่นสไตล์นี้ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน จนมีคนให้นิยาม Animal Print ว่า ‘Oldie, but a Goodie’ และกระแสนิยมดังกล่าวก็กลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้ดีไซน์เนอร์สร้างสรรค์ลวดลายสัตว์ออกมาโลดแล่นบนผืนผ้าอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลายเสือ (Tiger Print) ต้นแบบของเสื้อผ้าลายสัตว์จากหนังจริงสู่เส้นใยผ้าสีน้ำตาล ดำ และขาว, ลายงู (Snakeskin Print) สัญลักษณ์ของความยั่วยวนตามลักษณะการเคลื่อนไหวที่อ่อนช้อยแต่ลึกลับ, ม้าลาย (Zebra Print) เสน่ห์แบบยูนิเซ็กซ์ที่สะท้อนความเก๋ไก๋ด้วยสีสันสุดคลาสสิก ฯลฯ
