Search
Close this search box.
BLACKPINK

BLACKPINK is the REVOLUTION!

ปรากฏการณ์ความดังที่เจิดจรัสสมศักดิ์ศรี

ก้าวขึ้นเป็นเกิร์ลกรุ๊ปอันดับ 1 ได้อย่างสมศักดิ์ศรี สำหรับ BLACKPINK เกิร์ลกรุ๊ปจาก YG Entertainment ค่ายเพลง Big 3 ของเกาหลีใต้ ที่ปั้นไอดอล และศิลปินที่มีคุณภาพ อย่าง SE7EN, BIGBANG, 2NE1, Ikon และ AKMU (Akdong Musician) เป็นต้น

Helena ชวนสาว ๆ ย้อนไปสู่จุดสตาร์ทของ BLACKPINK ที่เปิดตัวในปี 2016 ในฐานะเกิร์ลกรุ๊ปวงที่ 2 ที่ เดบิวต์ภายใต้ YG Ent. ถัดจาก 2NE1 ด้วยภาพลักษณ์น้องสาวสุดเฟี้ยว สู่ความดังระดับสากล ที่พวกเธอบินข้ามทวีปไปแต้มสีดำ และชมพูให้ครองใจนักฟังเพลงชาวอเมริกันในงาน Coachella 2019 เป็นการวอร์มเครื่อง BLACKPINK ก่อนเข้าสู่ตลาด Mainstream ตะวันตกแบบเต็มตัว แต่เราบอกได้เลยว่า ความสำเร็จนี้ ไม่ได้มาจากสูตรสำเร็จของการเป็นวงจาก Big 3 หรอกน้า

BLACKPINK as the TRAINEES

แม้จะอยู่ในค่ายที่ได้ชื่อว่าเป็น Big 3 ของเกาหลีใต้ ที่เดบิวต์วงอะไรมาก็ถูกจับตามอง แต่กว่าที่ BLACKPINK จะได้แจ้งเกิดเป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงที่ 2 ของ YG Ent. ก็ต้องฟันฝ่าความโหดหิน จากการประเมินในรอบต่าง ๆ ขณะเป็นเด็กฝึกหัด ให้ได้มาตรฐานตาม Standard ของค่าย

BLACKPINK

BLACKPINK มีเมมเบอร์ทั้งหมด 4 คนด้วยกัน ประกอบด้วย จีซู (Jisoo) พี่ใหญ่ยิ้มสวย ครองตำแหน่ง Lead Vocalist และ Visual ของวง, เจนนี่ (Jennie) สาวน้อยแก้มป่อง อิมพอร์ตจากนิวซีแลนด์ รับหน้าที่ Main Rapper และ Lead Vocalist, โรเซ่ (Rosé) พัค แชยองคนงามของเรา กับตำแหน่ง Main Vocalist และ Lead Dancer, ปิดท้ายด้วยสาวไทยอย่าง ลิซ่า (Lisa) รับบทบาทมังเน่ (น้องเล็ก) Main Dancer, Lead Rapper และ Sub-Vocalist ของวง

แฟนเคป๊อบคงทราบกันดีว่า เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีเวทีให้เด็ก ๆ เหล่านี้ได้แสดงความสามารถกันอย่างหลากหลาย การเป็นไอดอลก็เป็นความฝันของพวกเขาเช่นกัน ถ้าได้เข้าเป็น Trainee (เด็กฝึกหัด) ในค่ายที่มีชื่อเสียง ก็นับเป็นต้นทุนที่ได้เปรียบไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้จบแค่นั้น แม้จะได้เป็น Trainee ในค่ายชื่อดัง แต่คนเก่งในนั้นไม่ได้มีแค่ 1 การเป็น Trainee ของ YG Ent. ที่มีแต่ระดับหัวกะทิในทักษะด้านต่าง ๆ พวกเธอต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือด ผ่านการวัดระดับ และรักษามาตรฐาน เพื่อให้ได้เป็นหนึ่งในคนที่โดดเด่น และเป็นคนที่ถูกเลือกให้เดบิวต์ในลำดับต่อไป

สาว ๆ BLACKPINK ทั้ง 4 คน ถูกการฝึกซ้อมขโมยช่วงเวลาวัยรุ่นอันแสนสดใสไปเฉลี่ยร่วม 5 ปีครึ่ง ซึ่งในขณะนั้น YG Ent. เองก็ปล่อยคำใบ้เกี่ยวกับเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ ปูทางมาตั้งแต่ช่วงปี 2012 เรื่อยมา เช่น ปล่อยวิดีโอประเมินทักษะการเต้น คลิปร้องเพลง หรือการโพสต์ภาพ Trainee บนบล็อก YG LIFE แบบที่ไม่ทิ้งคำอธิบายอะไรไว้เลย Helena เอง ชื่นชมกลยุทธ์การวางแผนโปรโมต Trainee ที่จะมีโอกาสได้เดบิวต์ครั้งนี้ของ YG Ent. ทำให้คนสงสัยถึงขีดสุด แต่ก็ต้องเฝ้ารอ เพราะไม่รู้ข้อมูลอะไรเลย และนั่นเป็นครั้งแรกด้วย  ที่เรารับรู้การมีอยู่ของ Trainee เด็กไทยหนึ่งเดียวในค่าย อย่างลลิสา มโนบาล สร้างความเซอร์ไพรซ์ให้กับแฟนเคป๊อบชาวไทยอย่างมาก

BLACKPINK

BLACKPINK as the SUPER ROOKIE!

ในเดือนกรกฎาคม YG Ent. ปล่อย Photo set ของ 4 สาวออกมา เพื่อยั่วยวนความสนใจจากเหล่าแฟน    เคป๊อบ ซึ่งแน่นอนว่า พวกเธอกลายเป็นจุดสนใจอย่างหนัก ถูกพูดถึงอย่างเป็นวงกว้าง และถูกจับตามองในการเดบิวต์ที่กำลังจะมาถึง เพราะก็นานมากแล้ว ที่ YG Ent. ได้เดบิวต์ 2NE1 ขึ้นมา

วันที่ 8 สิงหาคม ปี 2016 พวกเธอทั้ง 4 ได้เดบิวต์ในนาม ‘BLACKPINK’ ส่วนที่มาของชื่อวง ว่าทำไมต้องเป็น ‘BLACKPINK’ YG Ent. ได้เล่าไว้ว่า สีชมพู คือสีที่สื่อถึงความงดงาม แต่ความงดงามก็ไม่ใช่ทุกสิ่ง เหมือนกับ BLACPINK ที่งดงาม แต่ขณะเดียวกัน พวกเธอก็ซ่อนสีดำ โทนสีที่แทนความลึกลับ น่าค้นหา เหมือนพวกเธอที่ซ่อนพรสวรรค์อันหลากหลายไว้ข้างใน และด้วยความแตกต่างกันทางความสามารถ  พวกเธอจึงไม่จำเป็นต้องมีหัวหน้าวงดั่งเช่นเกิร์ลกรุ๊ปวงอื่น

การเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่เดบิวต์จากค่ายใหญ่อย่าง YG Ent. ย่อมสร้างความคาดหวัง และความกดดันให้พวกเธอ เพราะต้องแบกมาตรฐานที่รุ่นพี่ทำเอาไว้บนบ่า

BLACKPINK

แน่นอนว่า BLACKPINK ไม่ทำให้ผิดหวัง! เพลงเปิดตัวแนว Rap/ Hip Hop อย่าง ‘BOOMBAYAH’ ในซิงเกิลอัลบั้ม SQUARE ONE ได้ตอกย้ำว่า พวกเธอจะสร้างมาตรฐานใหม่ของวงการเกิร์ลกรุ๊ปในเกาหลีใต้ได้อย่างแน่นอน นับว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก วัยรุ่นเต้นตามกันทั่วบ้านทั่วเมือง (รวมทั้งเราด้วย)

BOOMBAYAH เปิดตัวอย่างสง่างามด้วยอันดับ 1 ใน 14 ประเทศ บนชาร์ตของ iTune และตัว BLACKPINK ยังทำลายสถิติ ด้วยการเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่ได้รางวัลในรายการเพลงเร็วที่สุด หลังจากที่เปิดตัวได้เพียง 13 วัน ยิ่งไปกว่านั้น BOOMBAYAH ยังทำลายสถิติตัวเองด้วยการเป็น MV เพลงเดบิวต์ที่มียอดวิวสูงถึง 800 ล้านวิว เป็นวงแรกของวงการเพลงเกาหลีใต้บน Youtube นับว่าเป็นการเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่ สมศักดิ์ศรี ไม่มีข้อกังขา และพวกเธอก็สามารถกวาดรางวัลศิลปินหน้าใหม่ จากเวทีงานปลายปีได้ตามคาด

BLACKPINK’s SECRET WEAPONS

ถ้าเปรียบแบล็คพิงค์เป็นทหาร ก็คงเป็นทหารแนวหน้าที่มีอาวุธหนักในมือ แถมยังเป็นอาวุธที่แตกต่างกัน แต่  ฮุคศัตรูได้อยู่หมัด แล้วอะไรคืออาวุธหลัก ที่ทำให้พวกเธอมีชื่อปรากฎบน Time หรือสามารถเข้าไปอยู่ในลิสต์ Forbes Asia’s 30 Under 30 ปี 2018 (และอะไรที่ทำให้ DDU-DU DDU-DU กลายเป็นเพลงชาติของข้าวสารบ้านเรา) และเชื่อไหมล่ะ ว่าตั้งแต่ปี 2016 จนกระทั่งตอนที่เราเขียนบทความนี้ แบล็คพิงค์มีเพลงที่ใช้โปรโมตเพียงแค่ 7 ซิงเกิล! น่าวิเคราะห์ที่ว่า ความดังของพวกเธอ มันไปสุดด้วยเพลงโปรโมตแค่ 7 ซิงเกิล ในเวลา 4 ปีได้อย่างไร 

บอกได้เลยว่าความสำเร็จของแบล็คพิงค์ไม่ใช่สูตรสำเร็จจากการเป็น ‘วงจากค่ายใหญ่’ และไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ที่พวกเธอสามารถติด Mainstream ตลาดตะวันตกได้แบบในทุกวันนี้

1. คาแรคเตอร์ไม่จำเจ

เกิร์ลกรุ๊ปในตลาดเพลงเกาหลีใต้มีเป็นร้อยวง อะไรทำให้แบล็คพิงค์สะกดสายตาคนได้เพียงแรกเห็น? ถ้าจับแบล็คพิงค์มายืนเรียงกันหน้ากระดาน Helena เองไม่สามารถมองพวกเธอแบบรวดเดียวจบ แล้วพูดว่า ‘ก็เหมือน ๆ กันอะ’ ได้ พวกเธอมีความที่เราต้อง ‘เอ๊ะ’ ในใจ สะดุดที่คนแรก คนที่สองเราก็ยังละสายตาไม่ได้ จะด้วยตัวพวกเธอเอง หรือ PR ของค่ายก็ตาม แบล็คพิงค์มีภาพลักษณ์แบบเด็กสาวตัวแสบ แบบแก๊งวายร้ายหลังห้อง อ่อนหวาน ทว่าก็เข้มแข็ง

แบล็คพิงค์ในสายตาเรา พวกเธอมอบความหลากหลายของจริตผู้หญิง ทุกคนมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง และไม่ทับไลน์กัน ทั้งเสียงร้อง หรือคาแรคเตอร์ของเมมเบอร์ หรือแม้แต่ไลน์การเต้น ทำให้แฟนคลับ (BLINKs) และแฟนเพลงของพวกเธอได้เสพเสน่ห์ที่ไม่จำเจ ซึ่งความหลากหลายทางกายภาพนี้ Helena มองว่า มีผลอย่างมากสำหรับการทำการแสดงบนเวที ที่นอกจากความสามารถต้องถึง เสน่ห์ที่แตกต่างก็เป็นสิ่งจำเป็นในการดึงคนดูได้แบบอยู่หมัด

2. คุณภาพคือหัวใจหลัก

แฟนคลับ เป็นสิ่งที่ทุกวงต้องมีอยู่แล้ว แต่อะไรที่ทำให้วง ๆ นั้น มีแฟนเพลงโผล่ขึ้นมาสนับสนุน? เราจึงมองว่า ‘คุณภาพ’ คือสิ่งที่ทำให้ใครก็ไม่รู้ สมัครใจที่จะเป็นแฟนเพลงของวง ๆ หนึ่ง คุณภาพสำหรับแบล็คพิงค์ที่เรามองเห็นกันอย่างชัดเจน คือแนวเพลง และท่าเต้น

แบล็คพิงค์มีแนวดนตรีที่ผสมผสานกันระหว่าง EDM, Trap, Pop และ Rap ที่ฟังง่าย มีความ Catchy หรือติดหู Rolling Stone นิตยสารเพลงชื่อดังจากฝั่งอเมริกาเอง ก็ให้นิยามว่า เพลงของแบล็คพิงค์อยู่ในวงดนตรีแนว ‘K-Trap’ ที่เข้าถึงได้ทุกวัย ไม่มีข้อผูกมัดทางเพศ อายุ หรือเชื้อชาติ พร้อมด้วยท่าเต้นอันเป็นหัวใจหลักของไอดอลเคป๊อบ ท่าเต้น หรือ Choreography ของแบล็คพิงค์ถูกออกแบบมาอย่างปราณีต โชว์ความสวยงามตามธรรมชาติของร่างกาย แข็งแรง แต่ก็งามละเมียดละไมแบบผู้หญิง

BLACKPINK

3. Empower Women ในเนื้อเพลง

จุดเด่นที่ทำให้แบล็คพิงค์แตกต่างจากเกิร์ลกรุ๊ปวงอื่น สะท้อนออกมาผ่านเนื้อเพลงบางส่วน ที่ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเป็นช้างเท้าหลังเสมอไป ไปกันได้ดีกับสถานการณ์ในโลกปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศ และให้ผู้หญิงเห็นคุณค่าของตนเอง เข้ากันได้ดีกับภาพลักษณ์ของเมมเบอร์แต่ละคน

4. ไร้กำแพงภาษา

แบล็คพิงค์ เป็นวงที่มีความหลากหลายทางภาษา ทั้งอังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น จีน และไทย ทำให้สามารถสื่อสารกับแฟน ๆ ได้อย่างไหลลื่น และเป็นธรรมชาติ ทำให้พวกเธอมีอิสระในการสื่อสารกับแฟน ๆ ทั่วโลก พวกเธอชาญฉลาดในการพูด และการเลือกใช้คำ ที่จะยิ่งซัพพอร์ตลุคของพวกเธอให้ดูมีความแข็งแกร่ง และดูพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายอื่น ๆ

ด้วยสิ่งเหล่านี้ จะกล่าวว่ามัน ‘ถูกจริต และจับใจ’ ตลาดเพลงที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลกอย่างสหรัฐฯ ก็ว่าได้

BLACKPINK is a REVOLUTION

‘การปฏิวัติ’ ที่เราจะพูดถึง คือการกระโดดข้ามกรอบเดิม ๆ ของการเป็นเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี โดยการใช้คาแรคเตอร์ และความสามารถของพวกเธอทุกคน เป็นสะพานในการเก็บสถิติให้กับวงของตัวเอง จนกระทั่งสื่อของอุตสาหกรรมเพลงที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกอย่างสหรัฐฯ ให้การยอมรับ และจับตามอง เคมีที่เข้ากันของพวกเธอทั้ง 4 คน นับเป็นรากฐานที่แข็งแรง ที่ทำให้ตัววงโดดเด่น ได้รับความสนใจ และมีโอกาสได้นับหนึ่งกับก้าวที่ยิ่งใหญ่ในตลาดเพลงโลก Helena จะพาสาว ๆ มาย้อนดูความสำเร็จของ BLACKPINK ไปพร้อม ๆ กัน

BLACKPINK

Landing on BILLBOARD

ในเดือนมิถุนายน ปี 2018 BLACKPINK เป็นเกิร์ลกรุ๊ปจากเกาหลีใต้วงแรก ที่พาเพลง DDU-DU DDU-DU จากอีพีอัลบั้ม SQUARE UP ของตัวเองทะยานเข้าไปสู่อันดับ 55 บน Billboard Hot 100 ได้ และเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี หลังจากที่ Wonder Girls พาเพลง Nobody เจาะชาร์ต เข้าไปถึงอันดับที่ 76 นับเป็นการเริ่มตีตลาดอเมริกาอย่างสวยสง่าของพวกเธอ

BLACKPINK

TOUCH DOWN!

ปี 2018 นับเป็น Golden Year ของพวกเธอเลยก็ว่าได้ ในเดือนกันยายน Dua Lipa ศิลปินหญิง เจ้าของเพลงดังอย่าง IDGF ก็ได้ประกาศการร่วมงานกับ BLACKPINK ในเพลง Kiss and Make Up เพลงที่ฟังแล้วชวนโยกหัว ด้วยดนตรีแนวลูกผสมแบบ Pop-Electronic เติม Hip Hop ลงไปนิด และยังคงความ Trap ในแบบ BLACKPINK

เดือนเดียวกัน BLACKPINK ก็ได้เซ็นต์สัญญากับ Interscope Records และ UMG ค่ายเพลงชื่อดัง เพื่อให้การทำงานในตลาดอเมริกาเป็นไปโดยง่าย และให้ผลงานของพวกเธอมีความสากลมากขึ้น

BLACKPINK

Rock the HISTORY

นอกจากการพาเพลงของตัวเองเข้าตีชาร์ต Billboard 200 และ Hot 100 และการได้เป็นหนึ่งใน Forbes Asia’s 30 Under 30 ประจำปี 2018 BLACKPINK ยังเป็นศิลปินเคป๊อบวงที่ 2 ที่เข้ามาสู่ YouTube’s Top 50 Global Artist ได้สำเร็จ ต่อจากวง BTS และมีฐานแฟนเพลงใน Youtube เป็นจำนวนมหาศาล BLACKPINK ยังสร้างประวัติศาสตร์ให้ตัวเองอีกครั้ง โดยการขึ้นปก Billboard เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามด้วยการติดกลุ่ม Phenom หรือ ‘ผู้สร้างปรากฏการณ์’ ของ TIME 100 Next

และเพลงอย่าง ‘Kill This Love’ ในการคัมแบ็คครั้งล่าสุด ก็เป็นที่จับตามองจากสื่ออเมริกันอีกครั้ง ในเกาหลีใต้เอง เพลงนี้กลายเป็นเอ็มวีจากวงเค๊ปอบที่มียอดวิวทะลุ 10 ล้านวิวเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำลายสถิติเดิมของเพลง ‘Idol’ จากวง BTS และยังทำลายสถิติเดิมของเพลง ‘thank you, next’ ของ Ariana Grande อีกด้วย

BLACKPINK

on the RUNWAY

BLACKPINK ชัดเจนในคาแรกเตอร์ของตัวเองมาโดยตลอด และความโดดเด่นเหล่านี้ แสดงออกชัดเจนจนจับตาวงการแฟชั่น และวงการบิวตี้ พวกเธอต่างก็มีโอกาสได้เป็น Ambassador แบรนด์เนมชื่อดังในไลน์แฟชั่น และเครื่องสำอาง และได้รับเชิญในการเข้าชม Fashion Week แบบ Front Row กับแบรนด์เนมอย่าง Chanel, Burberry, Celine และ Saint Laurent เป็นต้น

BLACKPINK

Hit you with that COACHELLA

BLACKPINK สร้างประวัติศาสตร์ให้ตัวเองอีกครั้ง เมื่องานเทศกาลดนตรีระดับโลกอย่าง Coachella Valley Music and Arts Festival ที่ราคาตั๋วแพงหูดับตับไหม้ ยิ่งใหญ่ และเก่าแก่ของสหรัฐฯ ได้ประกาศไลน์อัพศิลปินประจำปี 2019 และมีชื่อของ BLACKPINK ปรากฏอยู่บนประกาศ นับเป็นเกิร์ลกรุ๊ปวงแรกจากเกาหลีใต้ ที่ได้รับเชิญให้ไปแสดงในเทศกาลดนตรีนี้

แม้ในตอนแรก สาว ๆ จะดูประหม่าอยู่บ้าง แต่ก็กลับมาคุมเวทีได้อย่างอยู่หมัด และได้รับเสียงตอบรับดังกระหึ่ม ที่ตอน Helena ได้ดูคลิปการแสดงครั้งแรก ยังแอบขนลุกกับเสียงเชียร์ของคนที่นั่นเลย ดนตรีแบบ Live Band ที่มาช่วยเป็นแบ็คอัพให้ก็ยิ่งเสริมให้เวที Coachella ของ BLACKPINK ลุกเป็นไฟ สดใหม่ และสนุกสุดขีด

นี่เป็นเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งสำหรับความสำเร็จของสาว ๆ BLACKPINK เท่านั้น ซึ่งเราก็หวังว่า พวกเธอจะเติบโตในวงการเพลงได้มากขึ้น จับจองความรักจากแฟนเพลงได้ทั่วโลกแบบ All Area ให้สมกับความตั้งใจในการทุ่มเทจิตวิญญาณลงไปในทุกการทำงานของพวกเธอ 

แว่ว ๆ มาว่า YG Ent. มีแพลนจะคัมแบ็คสาว ๆ ในช่วงครึ่งปีแรกของ 2020 แต่ด้วยสถานการณ์ COVID-19 ที่ยังไม่มีวี่แววจะหยุด ก็ไม่รู้ว่าจะมีผลกระทบกับแพลนของวงแค่ไหน แต่ Helena เอาใจช่วย และรอแกะท่าเต้นเพลงใหม่อยู่นะคะ

SHARE

RELATED POSTS