สกินแคร์กู้ Skin Barrier (สกินบาร์เรีย)
ให้ผิวแข็งแรงในราคาจับต้องได้
รู้จัก Skin Barrier กันก่อน
สงสัยกันไหมว่าสกินแคร์ก็แพง แต่ทำไมยังเกิดปัญหาผิวตามมาอีก? Helena จะมาไขข้อสงสัยของปัญหาผิวนี้ อยากให้สาว ๆ ทุกคนทำความเข้าใจง่าย ๆ กันก่อน
Skin Barrier คือผิวหนังชั้นนอกสุด หรือ Epidermis ถ้าเอาอย่างเข้าใจง่าย ๆ รวบรัดฉับไวในไม่กี่บรรทัด Skin Barrier ก็คือกำแพงที่สร้างมาจากเซลล์ผิวหนัง โดยมีไขมันและมอยซ์เจอร์ไรเซอร์ทำหน้าที่เหมือนปูนเคลือบและยึดเซลล์ผิวหนังไว้ให้เกาะกันอย่างแข็งแรง แต่ถ้ากำแพงมีรอยรั่วจากการที่ผิวขาดความ ชุ่มชื้นจนทำให้เกิดช่องโหว่ ล็อกความชุ่มชื้นไม่ได้ แบคทีเรียและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ก็จะเข้ามาทำร้ายผิวได้ง่ายขึ้น สิ่งที่จะตามมาแน่นอนก็คืออาการผิวขาดน้ำ แพ้ง่าย และยังมีปัญหาผิวจุกจิกกวนใจตามมาอีกนานับประการ
หากยังนึกภาพ Skin Barrier ไม่ออกว่าคืออะไร ให้สาว ๆ ลองจินตนาการถึงกำแพงอิฐส้มที่มีปูนแทรกอยู่ระหว่างก้อน เจ้าปูนนั่นแหละคือ Skin barrier หรือเกราะป้องกันผิวที่ทำหน้าที่ในการปกป้องผิวจากอันตรายภายนอก ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะ ความเครียด ฮอร์โมนส์ที่เปลี่ยนแปลงต่าง ๆ
สาเหตุหลักที่จะทำให้ Skin Barrier ของเรามีช่องโหว่ได้แก่ ผิวสูญเสียน้ำจากสภาพอากาศ (อากาศหนาว อากาศแห้ง ๆ จากการอยู่ในห้องแอร์) ผิวสูญเสียไขมันเคลือบผิวจากการชำระล้างผิว/ กรดผลัดเซลล์ผิว (AHA หรือ BHA) หรือเกิดจากต่อมไขมันผิวขับน้ำมันน้อยลง (อายุมากขึ้น/ ยาที่เรากินบางชนิด) ความแข็งแรงของเกราะผิวจึงลดลง และเมื่อไหร่ก็ตามที่ Skin Barrier เริ่มมีรอยรั่ว ที่ผิวจะระคายเคือง หรือแพ้ง่ายแบบที่ไม่เคยเป็นก็จะมากตาม แถมด้วยริ้วรอยที่มาก่อนไว หยาบกร้าน และดูหมองคล้ำขึ้น
จริง ๆ แล้วผิวของเราก็สามารถเสริมสร้าง Skin Barrier ได้เองด้วยการเน้นทานผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน A, C, E หรือกรดไขมันโอเมก้า 3, 6 รวมทั้งทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันการถูกทำลายโดยแสงแดด แต่การใช้สกินแคร์ที่ช่วยปกป้องและ Boost ผิวของเราให้แข็งแรงก็จะช่วยทำให้ Skin Barrier ของเราเป็นกำแพงที่แน่นหนาและแข็งแรงยิ่งขึ้น โดยสาว ๆ สามารถเลือกสกินแคร์เสริมสร้าง Skin Barrier ที่มีส่วนผสมของ Ceramide หรือ Hyaluronic Acid เพื่อล็อกความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิวได้ตลอดวัน เราเลยมีลิสต์สกินแคร์เติมน้ำให้ผิวจาก Hyaluronic Acid มาให้สาว ๆ เก็บไว้เป็นทางเลือกอีกด้วย คลิกไปอ่านต่อได้เลยที่ 7 ลิสต์สกินแคร์ Hyaluronic Acid เน้น ๆ แต่ถ้าใครสนใจสกินแคร์ไลน์ที่สร้าง Skin Barrier แบบเน้น ๆ Helena ก็ได้รวบรวมสกินแคร์ราคาจับต้องได้แถมคุณสมบัติเริดมาให้สาว ๆ ลองเก็บไปพิจารณา มาดูกันเลย
Eucerin (ยูเซอรีน) Omega Soothing Cream
Eucerin Omega Soothing Cream เป็นสกินแคร์ที่เน้นสำหรับผู้มีปัญหาผิวแห้ง แดง คัน และแพ้ง่าย ครีมตัวนี้จะช่วยลดปัญหาผิวต่าง ๆ จากโอเมก้า 3&6 Fatty Acids และ Ceramide (เซราไมด์) ส่วนประกอบสำคัญที่จะช่วยให้กระบวนการซ่อมแซม Skin Barrier ทำงานได้อย่างดียิ่งขึ้น
โดยเจ้าส่วนประกอบเหล่านี้จะเติมไขมันที่จำเป็นในชั้นผิว เพื่อคืนความชุ่มชื้นและฟื้นบำรุง Skin Barrier ผิวของสาว ๆ ก็จะมีสุขภาพดีขึ้น ผิวแข็งแรงขึ้น แถมทาง Eucerin ยังการันตีด้วยว่า Omega Soothing Cream ตัวนี้เป็นสูตรอ่อนโยน ผ่านการตรวจสอบโดยแพทย์ผิวหนัง แถมยังปราศจากพาราเบน น้ำหอม และสีอีกด้วย
Curel (คิวเรล) Intensive Moisture Care Intensive Moisture Cream
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจากญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัลที่ 1 จาก Cosme Japan ถึง 2 ปีซ้อนเลยทีเดียว Curel ขึ้นชื่อสำหรับการเป็นแบรนด์สกินแคร์ที่ครองใจผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย Curel เองยังได้คิดค้นส่วนผสมที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของตัวเอง เค้าเคลมมาเลยว่า Ceramide ของเค้ามีความใกล้เคียงกับ Ceramide ตามธรรมชาติในผิวของคนมาก เข้าแก้ปัญหาผิวแพ้ง่ายที่ต้นเหตุ หลังใช้ Curel ผิวของเราจะชุ่มชื้นถึงขีดสุด ช่วยต้านทานทุกปัจจัยการแพ้อย่างแท้จริง แถมยังกระตุ้นการสร้าง Ceramide ตามธรรมชาติเข้าไปอีก
ตัวแบรนด์เคลมประสิทธิภาพของครีมไว้หลัก ๆ 3 ข้อด้วยกัน คือช่วยปกป้องการสูญเสีย Ceramide ช่วยลดการระคายเคืองจากผิวแห้งลอกเป็นขุย และช่วยเสริมความแข็งแรงของ Skin Barrier จากสิ่งระคายเคืองภายนอก ปราศจากน้ำหอม สี และแอลกอฮอล์ สาวผิวแพ้ง่ายใช้ได้อย่างสบายใจแน่นอน
CeraVe (เซราวี) Moisturizing Cream
สำหรับ Moisturizing Cream ของ CeraVe ตัวนี้ โด่งดังในวงการคนผิวแพ้ง่ายมาสักพักแล้ว ด้วยความที่ผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ชาวผิวแพ้ง่ายด้วยประสิทธิภาพในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวพร้อมฟื้นฟู Skin Barrier ไปในตัว ทำให้ผิวแข็งแรง ทางแบรนด์เคลมว่า ถึงเนื้อครีมจะเข้มข้นแต่ไม่เหนียวเหนอะหนะและซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วแน่นอน
Cerave ยังล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีสิทธิบัตร MVE Delivery Technology ที่ค่อย ๆ กระจายส่วนผสมของ Hyaluronic Acid และ Ceramide 3 ชนิดที่จำเป็นลงสู่ผิวได้ต่อเนื่องตลอดวัน ขณะเดียวกันก็ช่วยฟื้นฟูผิวให้แลดูสุขภาพดี ไม่มีน้ำมัน น้ำหอม และสี เหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย แต่ผิวธรรมดาก็ใช้ได้ไม่หนักผิว
Real Barrier (เรียลบาร์เรีย) Intense Moisture Cream
Real Barrier เป็นไลน์สกินแคร์พิเศษของ Atopalm แบรนด์เวชสำอางดูแลผิวมาแรงล่าสุดจากเกาหลี ครีมตัวดังของเค้าคือ Intense Moisture Cream มาพร้อมกับเทคโนโลยี MLE (Multi Lameller Emulsion) ที่ช่วยเสริมสร้าง Skin Barrier ของเรา ทำให้ผิวแข็งแรง คงความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 72 ชั่วโมง เนื้อครีมเข้มข้นแต่ซึมลงผิวได้อย่างรวดเร็ว ตัวครีมเน้นไปที่การลดการระคายเคืองจากสิว สเตียรอยด์ ลดผดผื่น ช่วยให้ผิวฟื้นตัวจากการถูกทำลาย และช่วยให้ผิวเก็บกักความชุ่มชื้นจาก Hyaluron Acid เข้มข้นได้ยาวนานตลอดวัน
ที่น่าสนใจคือส่วนผสมอื่น ๆ ที่ใส่มาอย่าง Panthenol ซึ่งช่วยในเรื่องของการปลอบประโลมผิวที่อักเสบ รวมทั้ง Madecassoside (มาเดคาสโซไซด์) ซึ่งเป็นสารแยกจากใบบัวบกที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ แถมยังทำหน้าที่ Anti-oxidant ไปในตัว นับว่าคุ้มค่าคุ้มราคาทีเดียว
Atopalm (อโทปาล์ม) MLE Intensive Moisturizing Cream
สกินแคร์จาก Atopalm อีกตัวที่เป็นสูตร Original ของเค้าเลย คุณสมบัติหลักนั้นไม่ต่างจาก Real Barrier Intense Moisture Cream มากนัก มีเทคโนโลยี MLE (Multi Lameller Emulsion) ที่พัฒนาสูตรให้เหมือนกับโครงสร้างของไขมันธรรมชาติในชั้นผิวหนังมนุษย์ ตรงเข้าทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดของร่างกายเป็นตัวชูโรงเหมือนเดิม
MLE Intensive Moisturizing Cream ตัวนี้ จะเน้นไปที่สูตรของเค้า ที่มีความอ่อนโยนยิ่งขึ้น เนื้อครีมซึมง่ายจนรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้นทันทีที่ใช้ และยังใส่ส่วนผสมอย่าง Phytosterols (ไฟโตสเตอรอล) ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ปราศจากสเตียรอยด์ พาราเบน แอลกอฮอล์และไม่ใส่สี
จดไว้ให้ขึ้นใจ ใครอยากมีผิวฟูแน่น อิ่มน้ำสาว ๆ ก็สามารถเลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมอย่าง Ceramide, Fatty Acid หรือสกินแคร์ที่มีส่วนประกอบของกรดโอเมก้าไว้เลือกใช้เองได้ หากเห็นสารเหล่านี้ในลิสต์ Ingredients ก็มั่นใจได้เลยว่าปลอดภัยและเป็นมิตรต่อ Skin Barrier ของเราอย่างแน่นอน
