เปิดกรุ ลิปออยล์ตัวดัง บำรุงริมฝีปากให้ฉ่ำวาว น่าจุ๊บ
ริมฝีปาก หนึ่งจุดเด่นบนใบหน้าของสาว ๆ ที่ต้องหมั่นบำรุงไม่ให้แห้งหรือแตก ด้วย “ลิปออยล์” บิวตี้ไอเทมที่เป็นทั้งเมคอัพและสกินแคร์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และบำรุงริมฝีปากที่แห้งแตกให้กลับมามีสุขภาพดี เรียบเนียนทาลิปสติกแล้วไม่ตกร่อง ปากอวบอิ่ม ดูฉ่ำวาว และน่าจุ๊บ ซึ่งลิปออยล์ตัวดังยี่ห้อไหนดี วันนี้เรามีมาฝากกัน ไปซื้อตำตามแล้วพกติดกระเป๋ากันได้เลย
ลิปออยล์ ไอเทมที่เป็นทั้งเมคอัพและสกินแคร์
ลิปออยล์ (Lip Oil) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อบำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก โดยมีส่วนผสมหลักจากน้ำมันธรรมชาติ เช่น น้ำมันโจโจ้บา น้ำมันโรสฮิป น้ำมันมะพร้าว และวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามิน E วิตามิน A เป็นต้น เนื้อลิปค่อนข้างเหลว ทาแล้วไม่หนักปาก และไม่เหนียวเหนอะหนะเท่าลิปกลอส เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาริมฝีปากแห้งแตกที่ต้องการให้ริมฝีปากกลับมามีสุขภาพดี รวมถึงยังช่วยสร้างสีสัน ความมันวาว ความฉ่ำ ให้ริมฝีปากของเราอวบอิ่มสุขภาพดีอีกด้วย
ความแตกต่างของลิปออยล์ vs ลิปบาล์ม vs ลิปกลอส
พาไปไขข้อสงสัยว่าลิปออยล์ ลิปบาล์ม และลิปกลอส แต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร เพื่อเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม
ลิปออยล์ (Lip Oil)
มีส่วนผสมหลักจากน้ำมันธรรมชาติมากกว่าลิปประเภทอื่น ๆ เหมือนเป็นการนำเอาลิปบาล์มกับลิปกลอสมาผสมรวมกัน เนื้อสัมผัสค่อนข้างเหลว มีความบางเบา ทาแล้วไม่หนักปาก มีให้เลือกทั้งแบบมีสี (สีจะอ่อน) และไม่มีสี
ลิปกลอส (Lip Gloss)
มีส่วนผสมหลักจากน้ำมันจากธรรมชาติที่ให้ความเงางาม คล้ายกับลิปออยล์ แต่จะแตกต่างกันตรงที่เนื้อสัมผัส ที่มีความเข้มข้น เนื้อเหนียวกว่าลิปออยล์ ทาแล้วริมฝีปากชุ่มชื้น ช่วยแก้ปัญหาร่องลึก ปากแห้งแตก บางยี่ห้อมีประกายระยิบระยับด้วย มีทั้งแบบมีสีและไม่มีสี สามารถใช้ควบคู่กับลิปประเภทอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความอวบอิ่ม มันวาวได้เลย
ลิปบาล์ม (Lip Balm)
มีส่วนผสมหลักจากปิโตรเลียมเจลลี่และน้ำมันจากธรรมชาติ เนื้อสัมผัสคล้ายขี้ผึ้งเหมาะสำหรับบำรุงริมฝีปากที่แห้งและแตกเป็นขุยได้เป็นอย่างดี ซึ่งลิปบาล์มจะไม่ค่อยติดทน ต้องทาซ้ำเรื่อย ๆ แนะนำให้ทาเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ริมฝีปากชุ่มชื้น ทาลิปสติกแล้วสวยไม่ตกร่อง
ลิปออยล์ตัวดังยี่ห้อไหนดี ทาแล้วปากชุ่มชื้นสวยตลอดทั้งวัน
CLARINS Lip Comfort Oil
ริมฝีปากชุ่มชื้น อวบอิ่มแบบสุขภาพดีด้วยลิปออยล์ตัวดังจากแบรนด์ CLARINS กับ Lip Comfort Oil ที่จะช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นยาวนานถึง 8 ชั่วโมง และมอบความฉ่ำเป็นประกายให้ปากสดใสขึ้น ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติ และน้ำมันพืช ทั้งน้ำมันสกัดจากโจโจ้บาออร์แกนิก เฮเซลนัท และโรสฮิปออร์แกนิก เนื้อสัมผัสนุ่มละมุน บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีให้เลือกถึง 9 เฉดสี ทาแล้วปากสวยเอิบอิ่ม ชุ่มชื้นตลอดวัน
ราคา 1,250 บาท (ขนาด 7 ml)
Dior Addict Lip Glow Oil
ลิปออยล์แบรนด์ถัดมา Dior Addict Lip Glow Oil จากส่วนผสมของน้ำมันเชอร์รี่ ที่จะเนรมิตให้ริมฝีปากคุณกลับมาชุ่มชื้น สวย สดใส เวลาทาจะเป็นฟิล์มบาง ๆ เคลือบเรียวปาก เนื้อสัมผัสคล้ายกลอส ไม่เหนียวเหนอะหนะ ฉ่ำวาวเหมือนกระจก ติดทน ที่สำคัญมีเทคโนโลยี Color Reviver ที่ลิปจะเปลี่ยนสีตามอุณหภูมิปากของแต่ละคน มีให้เลือกถึง 6 เฉดสี เข้าได้กับทุกสีผิว
ราคา 1,650 บาท (ขนาด 6 ml)
GISOU Lip Oil Tinted Trio
GISOU Lip Oil Tinted Trio ลิปออยล์มีสีสุดฮอตที่ขายหมดเกลี้ยงภายใน 6 ชั่วโมง ซึ่งแบรนด์นี้เจ้าของเป็นอินฟลูเอนเซอร์ชาวเนเธอแลนด์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจในการทำผลิตภัณฑ์ความงามมาจากสวนผึ้งของครอบครัว ซึ่งลิปออยล์แท่งนี้อัดแน่นไปด้วยสารบำรุงจัดเต็ม มีทั้งน้ำผึ้ง น้ำมันสกัดจากน้ำผึ้ง น้ำมันโจโจ้บา น้ำมันเมล็ดมีโดว์โฟม ไฮยาลูโรนิก น้ำมันบลูเบอร์รี่ และน้ำมันบูริติ ที่ช่วยให้เรียวปากชุ่มชื้น ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน เติมเต็มร่องปาก และเพิ่มความฉ่ำวาว ให้ริมฝีปากอวบอิ่มน่าจุ๊บ มี 3 สี 3 กลิ่นให้เลือก คือ Mango Passion Punch โทนส้ม, Watermelon Sugar โทนใสติดชมพูเบา ๆ มีชิมเมอร์ และ Strawberry Sorbet โทนชมพูบานเย็น เมื่อทาแล้วริมฝีปากจะสดใสและมีกลิ่นหอมของผลไม้
ราคา 1,590 บาท (ขนาด 8 ml)
LAKA Soothing Vegan Lip Oil
สำหรับใครที่มีงบย่อมเยา Laka Soothing Vegan Lip Oil ตอบโจทย์ มีให้เลือก 2 สี คือ Calming Purple ลิปออยล์สีม่วง สูตรสำหรับใช้ตอนกลางวัน มีส่วนผสมของน้ำมันสกัดต้นโจโจบาเข้มข้น ทาแล้วไม่เหนียวเหนะหนะ ช่วยบำรุงริมฝีปากที่แห้งแตกให้กลับมาชุ่มชื้น และเพิ่มความแวววาวให้ปากดูเปร่งประกาย Nourishing Yellow ลิปออยล์สีเหลือง สูตรนี้แนะนำให้ใช้ตอนกลางคืน มีส่วนผสมของน้ำมันเมล็ดทานตะวัน เสมือนเป็น Sleeping Mask ช่วยบำรุง ผลัดเซลล์ผิวให้ปากเรียบเนียน หากทาเป็นประจำริมฝีปากจะกลับมาสุขภาพดี ทาลิปสติกสวยไม่ตกร่อง ที่สำคัญยังอ่อนโยนต่อเรียวปาก Vegan และ Cruelty-free ด้วย
ราคา 550 บาท (ขนาด 4.5 g)
Fenty Treatz Hydrating + Strengthening Lip Oil
มาปากฉ่ำวาวกันต่อกับ Fenty Treatz Hydrating + Strengthening ลิปออยล์สีสันสุดจี๊ด ที่ทาแล้วริมฝีปากน่าจุ๊บ เหมาะกับคนที่ปากแห้งกร้านเป็นขุย อุดมไปด้วยส่วนผสมคุณภาพ ทั้งน้ำมันเมล็ดเชอร์รี่ ช่วยเติมความชุ่มชื้น, สารสกัดอะเซโรล่า เชอร์รี่ และเชอร์รี่ป่า ปรับสภาพและฟื้นบำรุงริมฝีปาก และน้ำมันโจโจ้บา น้ำมันโรสฮิป ที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ปลอบประโลมริมฝีปากแห้งให้กลับมาเรียบเนียน นุ่ม ชุ่มชื้นเป็นพิเศษ มีให้เลือก 4 สีสัน คือ Cherry Treat, Kalahari Melon, Dragon Fruit และ Black Cherry ทาแล้วสวยฉ่ำวาว ปากน่าจุ๊บทุกเฉดสี
ราคา 1,080 บาท (ขนาด 5.6 ml)
The Saem Eco Soul Lip Oil
ปิดท้ายด้วยลิปออยล์ราคาที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้กับ The Saem Eco Soul Lip Oil มีส่วนผสมจากธรรมชาติ 95% ผสมด้วยสารปกป้องจากธรรมชาติ 7 ชนิด มีให้เลือกใช้ 3 สี คือ Honey Honey ที่มีส่วนผสมของน้ำผึ้ง น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันอีฟนิงพริมโรส และน้ำมันมะกอก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก Berry Berry ลิปออยล์ที่มีส่วนผสมของผลไม้ตระกลูเบอร์รี่ น้ำมันเมล็ดคามีเลีย และน้ำกุหลาบ กลิ่นหอมหวาน ทาแล้วให้สีชมพูเบา ๆ Grapefruit มีส่วนผสมของเกรปฟรุ๊ต น้ำมันโจโจ้บา น้ำมันโรสฮิป และน้ำมันชาเขียว ช่วยให้ริมฝีปากเรียบเนียนสุขภาพดี ทั้ง 3 เฉดสี เหมาะกับทุกสีผิว ทาระหว่างวันก็ให้ลุคที่สดใสขึ้นด้วย
ราคา 240 บาท (ขนาด 6 ml)
โห ลิปออยล์นี่นอกจากจะช่วยบำรุงริมฝีปากแล้ว ยังช่วยให้ finished look ของสาว ๆ สวยเต็ม 100% ได้ด้วยริมฝีปากที่ฉ่ำวาว อวบอิ่ม เป็นประกายเหมือนฉีดฟิลเลอร์ปาก เรียกว่าเป็นบิวตี้ไอเทมที่สาว ๆ ควรมีพกติดกระเป๋าไว้เลย ใครชอบแบรนด์ไหนก็ตามไปลองหรือซื้อกันได้เลยนะ
https://shopee.co.th/m/shop-best-lip-oil
https://www.cosmenet.in.th/cosme-intrend/51204
https://vogue.co.th/beauty/make_up/article/seven-lipoil-update-2024
https://th.theasianparent.com/what-exactly-is-a-lip-oil
https://women.trueid.net/detail/7e74kqrj1kJm
https://us.gisou.com/products/lip-oil-tinted-trio
https://forbesthailand.com/world/gisou-ด้วยพลังแห่งโซเซียลมี
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.