วิธีน้ำหอม

9 วิธีฉีดน้ำหอม | ติดทนจนผู้ชายต้องเหลียวหลัง

เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนเคยหงุดหงิดใจไม่น้อย ที่น้ำหอมราคาแพงของเธอไม่ติดทนเอาซะเลย ซื้อแบบ EDT ก็แล้ว หรือจะกัดฟันซื้อแบบ EDP แล้วก็ยังไม่ทน มาค่ะ วันนี้ Helena เลยหยิบ 9 วิธีฉีดน้ำหอมเด็ด ๆ ให้น้ำหอมของเราติดทนจนผู้ชายต้องเหลียวหลังมาฝาก เพราะบางคนอาจไม่รู้เลยว่าวิธีฉีดน้ำหอมที่ทำอยู่เป็นประจำมันผิด

แต่การเลือกน้ำหอมที่มีโน้ตหลายระดับก็เป็นสิ่งตั้งต้น ที่จะทำให้น้ำหอมของเราติดทนมากขึ้น ใครยังดูโน้ตของน้ำหอมไม่เป็น ยังเลือกไม่ถูก คลิกเข้าไปอ่าน 9 น้ำหอมต้อนรับซัมเมอร์ ฉีดแล้วแซ่บสุดซอย ก่อนได้ รับรองว่าจะได้ความรู้ของการเลือกน้ำหอมแบบเต็ม ๆ เลยค่ะ แต่ถ้าพร้อมแล้ว ก็เลื่อนลงไปอ่าน 9 วิธีฉีดน้ำหอมของเราได้เลย!

ทำความรู้จัก ‘ระดับกลิ่น’ ก่อนฉีดน้ำหอม

จะไปได้อะไร หากเรารู้วิธีฉีดน้ำหอมแต่ไม่รู้ว่าน้ำหอมนั้นมีระดับกลิ่นกี่ระดับ น้ำหอมบางตัวอาจราคาแพงสุดเพดานแต่ไม่ติดทนเพราะระดับกลิ่นไม่ซับซ้อน แต่น้ำหอมบางตัวราคาไม่แพงแต่เมื่อทำตามวิธีฉีดน้ำหอมกลับหอมนานทะลุราคา เพราฉะนั้น ก่อนจะไปเลือกน้ำหอมกลิ่นในฝัน อยากให้สาว ๆ ได้ทำความรู้จัก และทำความเข้าใจกับระดับกลิ่นของน้ำหอมกันก่อน น้ำหอมจากเคาน์เตอร์แบรนด์ จะมีระดับกลิ่นที่ค่อนข้างเด่นชัด ไล่ระดับฐานของกลิ่นไปตามแต่ละชั่วโมง เราจะเรียกระดับกลิ่นเหล่านั้นว่า ‘โน้ต’ ซึ่งโน้ตของกลิ่นจะมาก หรือน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของน้ำหอมของสาว ๆ ด้วย

วิธีฉีดน้ำหอม

กระซิบว่า น้ำหอมที่ดี ควรจะมีการเปลี่ยนโน้ต 3 ระดับ เราแนะนำว่า ลองวิธีฉีดน้ำหอมไว้จุดที่อุณภูมิสูงอย่าง บริเวณข้อมือ แล้วไปเดินเล่นลั้นลาสัก 2 – 3 ชั่วโมง ก็จะสามารถสัมผัสโน้ตของน้ำหอมนั้นได้พอประมาณ เป็นอีก 1 ตัวช่วย ก่อนจะตัดสินใจซื้อน้ำหอมกลับไปประดับโต๊ะเครื่องแป้งของสาว ๆ

1. Head Notes / Top Notes

ลักษณะกลิ่นของ Head Notes / Top Notes จะโดดเด่นเป็นกลิ่นตัวแรกสุดที่มาจากหัวน้ำหอมที่ระเหย (เราจะได้กลิ่นโน้ตนี้ตอนเปิดฝาแล้วดม) โดยกลิ่นของท็อปโน้ต จะอยู่ใน 10 – 20 นาทีแรก หลังจากฉีดน้ำหอมลงบนผิว

2. Heart Notes / Middle Notes

Heart Notes / Middle Notes เป็นกลิ่นของหัวน้ำหอมตัวหลักในน้ำหอมชนิดนั้น ๆ กลิ่นจะนุ่มนวล และกลมกลืนไปกับกลิ่น Base notes โดยกลิ่นของมิดเดิลโน้ต จะอยู่ใน 3 – 6 ชั่วโมง หลังจากฉีดน้ำหอมลงบนผิว

3. Base Notes / Back Notes

เป็นกลิ่นส่วนสุดท้ายของน้ำหอม ซึ่งกลิ่นของ 2 โน้ตแรกได้แห้งเหือดไปจากผิวของเราหมดแล้ว ที่น่าสนใจคือ กลิ่นในเบสโน้ตที่แต่ละคนได้ จะแตกต่างกัน! ขึ้นอยู่กับกลิ่นตัวตามธรรมชาติของผู้ใช้ สภาพอากาศ กิจกรรมที่ทำระหว่างวัน เป็นต้น เราเรียกกลิ่นในขั้นนี้ว่า ‘Bridge’

4. Bridge

เมื่อกลิ่นของน้ำหอม ผสมรวมเข้ากับกลิ่นตัวตามธรรมชาติของผู้ใช้ จะทำให้เราได้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง นั่นเป็นสาเหตุของความสงสัยในบางครั้ง ที่ว่า เพื่อนฉีดน้ำหอมขวดเดียวกันกับเรา แต่ทำไมได้กลิ่นที่ไม่เหมือนกัน (และดูเหมือนว่าเค้าจะหอมกว่าซะงั้น)

การที่กลิ่นของน้ำหอมสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามกลิ่นตัวธรรมชาติของผู้ใช้ เวลาซื้อน้ำหอมที่เราคิดว่าเหมาะกับตัวเองจึงไม่ควรพิจารณาจากการลองดมเพียงอย่างเดียว ส่วนใครอยากรู้ว่าน้ำหอมแต่ละตัวมีระดับกลิ่นอย่างไร (เอาไว้ประกอบการซื้อ) ลองแกล้ง ๆ คลิกเข้าไปอ่านที่ 9 น้ำหอมต้อนรับซัมเมอร์ ฉีดแล้วแซ่บสุดซอย ได้เลย

วิธีน้ำหอม

1. ฉีดตามจุดชีพจร

ด้วยความอุ่นจากการหมุนเวียนของเลือดใต้ผิวหนัง และอัตราการเต้นของชีพจร จะเป็นตัวช่วยดูดซับความหอมไว้ ทำให้กลิ่นของน้ำหอมฟุ้งกระจายได้ดีมากกว่าการฉีดน้ำหอมที่บริเวณอื่น การฉีดน้ำหอมลงบนจุดชีพจรต่าง ๆ จะทำให้สาว ๆ มีกลิ่นหอมติดตัวตลอดทั้งวัน แถมกลิ่นฟุ้งกระจายโดยไม่เหม็นฉุนเกินไป แต่ว่าไม่จำเป็นจะต้องฉีดทุกจุดชีพจรนะคะ ให้ฉีดน้ำหอมแค่ 2-3 จุดก็พอ ขึ้นอยู่กับว่าอยากให้กลิ่นกระจายออกมาในส่วนไหนค่ะ และการฉีดน้ำหอมลงบนผิวโดยตรง กลิ่นจะหอมจรุงใจยาวนานกว่าฉีดลงบนเสื้อผ้า

วิธีน้ำหอม

2. ผิวชื้นสิดี

วิธีฉีดน้ำหอมข้อนี้ Helena แนะนำให้สาว ๆ ทาวาสลีน โลชั่น (แบบไม่มีกลิ่น) บาง ๆ บนผิว หรือฉีดน้ำหอมหลังจากอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ เพราะหลังจากที่เราอาบน้ำ ผิวของเราจะชุ่มชื้นมาก ๆ ทำให้ดูดซึมกลิ่นได้ดีกว่าการฉีดน้ำหอมลงบนผิวแห้ง ๆ หลักการเดียวกับการทาสกินแคร์ลงบนผิวชื้น ๆ หลังอาบน้ำนั่นแหละค่ะ ซึ่งวาสลีนจะช่วยให้ผิวของเรามีความมัน กลิ่นของน้ำหอมจึงจะติดบนผิวมันมากกว่าผิวแห้ง เพราะการมีผิวที่ชุ่มชื้นนั้น จะช่วยให้น้ำหอมติดทนบนผิวได้มากกว่า และช่วยกระจายกลิ่นได้มากกว่าการปล่อยให้ผิวแห้ง วิธีการนี้จะช่วยให้มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ติดตัวตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องฉีดน้ำหอมเพิ่มให้เปลือง

วิธีน้ำหอม

3. ฉีดน้ำหอมในอากาศ

การฉีดน้ำหอมในอากาศแล้วรีบเดินผ่าน เหมาะกับสาวๆ ที่ใช้น้ำหอมแบบ Eau de Parfum (EDP) หรือจะเป็น Perfume ที่มีส่วนประกอบของหัวน้ำหอมมากที่สุด โดยให้เราฉีดน้ำหอมใส่อากาศ ห่างจากตัวประมาณ 6 นิ้ว แล้วรีบเดินผ่านโดยให้ละอองน้ำหอมติดทั่วร่างกาย จะช่วยให้กลิ่นหอมไม่ฉุนมาก และติดทนนาน

วิธีน้ำหอม

4. ฉีดน้ำหอมลงบนแปรงหวีผม

การฉีดน้ำหอมลงบนแปรงหวีผม เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้น้ำหอมติดทนนาน อย่าไปฉีดลงบนผมโดยตรงเชียวค่ะ เพราะแอลกอฮอล์ในน้ำหอมอาจโดนหนังศีรษะเกินไป ให้ฉีดน้ำหอมลงบนแปรง แล้วเอามาหวีผมตามปกติ จะช่วยให้กลิ่นของน้ำหอมกระจายตัว และติดทนมากขึ้น Helena เคยลองวิธีนี้แล้ว ขอบอกเลยว่าจริงแท้แน่นอน

วิธีน้ำหอม

5. อย่าถูน้ำหอมที่ข้อมือ

เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยใช้วิธีฉีดน้ำหอมที่ข้อมือ แล้วถูข้อมือไปมา ขอแนะนำว่าให้เลิกด่วน เพราะการถูข้อมือจะทำให้กลิ่นจางลงเร็วลงกว่าเดิมอีก เราแนะนำว่าให้ใช้วิธีเอานิ้วแท็บ ๆ ที่ข้อมือจุดที่เราฉีดน้ำหอมลงไปแทน เพื่อกดให้น้ำหอมซึมเข้าสู่ใต้ผิวหนัง

วิธีน้ำหอม

6. ฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้าก่อนรีด

การฉีดน้ำหอมลงไปบนเสื้อผ้าก่อนที่จะรีดผ้า นับว่าเป็นวิธีที่เวิร์ค! เพราะเมื่อน้ำหอมเจอกับความร้อนแล้ว กลิ่นของน้ำหอมก็จะติดที่ผ้านานขึ้น ผสมกับน้ำหอมที่ติดตัว ทำให้กลิ่นของน้ำหอมติดทนอยู่กับเราทั้งวันแบบคูณสองไปเลย

วิธีน้ำหอม

7. ฉีดให้กระจาย อย่าฉีดให้กระจุก

อย่าใช้วิธีฉีดน้ำหอมใกล้จุดที่ต้องการเกินไป ให้ถือน้ำหอมห่างออกจากตัวพอประมาณแล้วค่อยฉีดนะคะ ละอองของน้ำหอมที่เล็ก และเบาบางลง จะทำให้น้ำหอมกระจาย และฟุ้งทั่วตัว ไม่กระจุกอยู่ที่ใดที่หนึ่ง

วิธีน้ำหอม

8. อย่าเก็บน้ำหอมไว้ในที่ชื้น และมีแสง

กฎเหล็กเลยของสาว ๆ ที่กำลังจะซื้อน้ำหอมราคาแพงมาใช้ ได้โปรดอย่าเก็บน้ำหอมไว้ในที่ชื้น และโดนแสงโดยตรง ความชื้น และแสงจะทำให้น้ำหอมเสื่อมสภาพลง ระเหยไวขึ้น แถมกลิ่นก็จะจางไวขึ้น แนะนำให้เก็บในตู้ที่ปิดมิดชิด และไม่ชื้น

วิธีน้ำหอม

9. การกินก็มีผล

อาหารบางชนิดก็มีผลกับกลิ่นตัว เช่น หอม กระเทียม และเครื่องเทศต่าง ๆ หากกินในจำนวนที่มาก หรือกินเป็นประจำ ก็อาจส่งผลให้มีกลิ่นตัวออกมาผสมกับกลิ่นเหงื่อในระหว่างวันได้ ขอให้สาว ๆ ระมัดระวังในการกินของที่มีกลิ่นแต่พอดี เพราะเวลาที่เราฉีดน้ำหอมลงบนร่างกาย จะได้มีแต่กลิ่นน้ำหอมอย่างเดียวโดยที่ไม่มีกลิ่นตัวมาปะปน

วิธีน้ำหอม

Did you know: เรื่องหอม ๆ ของของน้ำหอม

1. กลิ่นน้ำหอมที่เปลี่ยนไม่ได้แปลว่าหมดอายุนะคะ บางคนกังวลมาก ๆ ว่าทำไมยิ่งเก็บน้ำหอมนาน กลิ่นยิ่งเปลี่ยน หรือน้ำหอมของเราจะหมดอายุแล้ว? ไม่จริงเลย น้ำหอมแท้นั้น ยิ่งเก็บนานก็ยิ่งหอม แม้สีอาจจะเปลี่ยน แต่ไม่หมดอายุแน่นอน ความเข้มข้นของกลิ่นต่างหากที่มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้น ถ้าอยากให้น้ำหอมอยู่ทนเข้มข้นสุด ๆ ลองเก็บน้ำหอมกลิ่นโปรดไว้ใช้นาน ๆ ดูสักขวดก็ดี บางคนเก็บน้ำหอมไว้เป็นสิบ ๆ ปีก็มีนะ

2. บางกรณี หากเราใช้น้ำหอมกลิ่นโปรดของตัวเองขวดแล้วขวดเล่า แต่ขวดล่าสุดที่ซื้อมาทำไมกลิ่นถึงเปลี่ยน (ซี่งอาจจะหอมน้อยลง หรือมากขึ้นก็ได้) นั่นไม่ได้แปลว่าน้ำหอมของคุณจะเป็นของปลอม หรือหลุด QC นะคะ แต่เพราะน้ำหอมในแต่ละล็อต (Batch) โดยเฉพาะน้ำหอมที่มีส่วนประกอบของกลิ่นจากธรรมชาติ วัตถุดิบที่นำมาผลิตก็จะเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศ สภาพดิน และสภาพแวดล้อมโดยรวมด้วย ซึ่งส่งผลโดยตรงกับวัตถุดิบนั้นแน่นอน กลิ่นจึงอาจจะไม่เหมือนเดิม 100%

สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ไม่รู้มาก่อนว่าทำตามนี้แล้วจะยิ่งทำให้น้ำหอมอยู่ติดทนมากยิ่งขึ้น ก็ลองทำตามวิธีฉีดน้ำหอมของเราได้เลย! เมื่อเลือกน้ำหอมกลิ่นที่ใช่ได้แล้ว ก็อย่าลืมการฉีดน้ำหอมให้ถูกวิธีกันด้วยนะคะ มาใช้น้ำหอมให้คุ้มค่ากับทุกบาทที่เสียไปกันเถอะค่ะ!