รู้จักอาการช็อกโกแลตซีสต์ คืออะไร? เพราะผู้หญิงทุกคนเสี่ยงเป็นได้!
ช็อกโกแลตซีสต์ คือ โรคใกล้ตัวที่จะส่งผลกระทบต่อผู้หญิงอย่างเราโดยตรง เป็นภัยเงียบตัวร้ายที่สามารถเป็นซ้ำได้ด้วยนะ ซึ่งอาการที่บ่งบอกว่าเป็นช็อกโกแลตซีสต์นั้นคล้ายกับอาการปวดท้องประจำเดือนเลยล่ะค่ะ จึงทำให้เรามองข้ามโรคนี้ไป แต่ว่าสาว ๆ ของ Helena ไม่ต้องกังวลน้า เพราะว่าวันนี้ทุกคนจะได้รู้ว่า ช็อกโกแลตซีสต์ คืออะไร? มีอาการเป็นอย่างไร? แล้วอาการแตกต่างจากการปวดประจำเดือนอย่างไร? และมีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง? เพื่อที่เราจะได้เตรียมตัวรับมือ และดูแลสุขภาพของเราได้ทันเวลาค่ะ
รู้จัก ช็อกโกแลตซีสต์ คืออะไร? สาว ๆ ห้ามเมินเด็ดขาด!
‘ช็อกโกแลตซีสต์’ หรือโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ คือการที่เลือดประจำเดือนไหลย้อนกลับ แทนที่เลือดจะไหลออกมาทางช่องคลอดตามปกติ แต่กลับมีประจำเดือนส่วนหนึ่งไหลย้อนไปทางหลอดมดลูกเข้าไปในช่องท้อง จึงไปฝังตัวที่รังไข่ ทำให้เกิดเป็นถุงน้ำมีเลือดคั่ง จนไปเจริญเติบโตในอวัยวะต่าง ๆ เช่น อุ้งเชิงกราน ท่อรังไข่ ลำไส้ช่องคลอด มดลูก กระเพาะปัสสาวะ สาว ๆ ลองคิดภาพตามดูสิคะว่า…ถ้าเราเติมน้ำใส่ลูกโป่งเข้าไปทีละนิด เติมไปเรื่อย ๆ น้ำในลูกโป่งก็จะมีปริมาณมากขึ้น เมื่อน้ำอยู่ในนั้นนาน ๆ ก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลง เหมือนกับร่างกายของเราเลยค่ะ หากเลือดค้างอยู่ในถุงน้ำนาน ๆ จะกลายเป็นสีน้ำตาล มีลักษณะเหมือนช็อกโกแลต จึงถูกเรียกว่า “ถุงน้ำช็อกโกแลต” หรือ “ช็อกโกแลตซีสต์” นั่นเองค่ะ
5 อาการเสี่ยงที่บ่งบอกว่าฉันเป็นช็อกโกแลตซีสต์
อย่างที่เราได้บอกไปว่าช็อกโกแลตซีสต์ คือ โรคที่อยู่ใกล้ตัวผู้หญิงอย่างเรามาก มีอาการที่ไม่เจาะจง ใกล้เคียงกับการปวดประจำเดือน และอาจมีอาการคล้ายกับโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย ถ้าหากสาว ๆ พบว่าตนเองมีอาการในลิสต์ต่อไปนี้ Helena ขอแนะนำว่าต้องไปตรวจกับแพทย์ด่วนที่สุดเลยนะคะ เพราะสาว ๆ อาจจะเป็นช็อกโกแลตซีสต์หรือโรคอื่น ๆ ที่มีอาการใกล้เคียงกับช็อกโกแลตซีสต์ก็ได้น้า ซึ่งทั้ง 5 อาการที่นำมาบอกนี้เป็นอาการที่พบได้บ่อยในกลุ่มเสี่ยงช็อกโกแลตซีสต์
- ปวดท้องประจำเดือนเรื้อรัง ถึงขั้นต้องหยุดงาน
- ลำไส้แปรปรวน ท้องเสีย เกิดขึ้นบ่อยผิดปกติระหว่างที่มีประจำเดือน
- ปัสสาวะเป็นเลือด หรืออุจจาระเป็นเลือด
- ปวดเสียดในท้อง
- ปวดหลัง ปวดร้าวลงขา
เอ้ะ! แค่ปวดท้องประจำเดือน หรือ เป็นช็อกโกแลตซีสต์?
ช็อกโกแลตซีสต์ มักพบในผู้หญิงที่มีอายุ 20-40 ปี สาว ๆ ต้องคอยสังเกตอาการและความผิดปกติที่เกิดขึ้นน้า เพราะอาการของช็อกโกแลตซีสต์คล้ายกับการปวดท้องประจำเดือนเลย
ข้อสังเกตของโรคช็อกโกแลตซีสต์
หากเราไม่เคยปวดท้องประจำเดือนมาก ๆ แล้วจู่ ๆ ก็มีอาการปวดท้องมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีอาการปวดท้องมากขึ้นทุกเดือนจนเราทนไม่ไหว อาจเป็นเพราะช็อกโกแลตซีสต์กำลังก่อตัวขึ้นในร่างกายของเรานั่นเอง ทางที่ดีสาว ๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายโดยด่วน หากเป็นช็อกโกแลตซีสต์จริงจะได้รักษาทันเวลานะคะ!
ช็อกโกแลตซีสต์ เป็นแล้วรักษาได้อย่างไร?
ในกรณีที่พบว่าเป็นช็อกโกแลตซีสต์เร็วก็จะสามารถเลือกแนวทางการรักษาได้ค่ะ หากอาการไม่รุนแรง แพทย์จะติดตามอาการเป็นระยะและให้ยาในการรักษา แต่ในกรณีที่ใช้ยาไม่ได้ผลก็จะมีแนวทางการรักษาอื่นค่ะ ได้แก่
- การผ่าตัด เป็นวิธีมาตรฐานในการผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดผ่านกล้องนี้เป็นวิธีที่ทันสมัย เป็นรูปแบบหนึ่งของการผ่าตัดแบบ Minimally Invasive Surgery หรือ MIS อันเป็นเทคนิคในการผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพสูง ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะมีแผลเล็ก เจ็บน้อย และฟื้นตัวเร็ว
- ฉีดฮอร์โมนหรือกินฮอร์โมนเพื่อไม่ให้มีประจำเดือน แนวทางการรักษานี้ส่งผลให้ช็อกโกแลตซีสต์ฝ่อนั่นเอง อาการปวดน้อยลง แต่พังผืดจะไม่หายไป ต้องฉีดฮอร์โมนหรือกินฮอร์โมนเพื่อไม่ให้มีประจำเดือนเป็นประจำ
ช็อกโกแลตซีสต์ คือ โรคที่สามารถเกิดขึ้นซ้ำได้อีก แม้ว่าจะทำการการผ่าตัด การรักษาด้วยยา ทำให้อาการปวดดีขึ้นก็ตาม โรคนี้อาจเกิดเป็นซ้ำได้อีก โดยเฉพาะในบุคคลที่มีอาการรุนแรงควรทำตามที่แพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ แต่เมื่อผู้หญิงถึงวัยทองโรคนี้จะหายไปเอง เพราะไม่มีฮอร์โมนจากรังไข่อย่าง ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ทำให้ตุ่มต่าง ๆ ที่ฝังตัวอยู่นั้นฝ่อลงไป และไม่มีโอกาสเป็นช็อกโกแลตซีสต์อีกต่อไป
สาว ๆ ก็ได้รู้กันไปแล้วว่าช็อกโกแลตซีสต์ คืออะไร ทีนี้เราก็อย่ามองข้ามสุขภาพของตนเองนะคะ เพราะหากฃมองข้ามไปจะส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราโดยตรง แม้ว่าเรายังไม่เคยเป็นช็อกโกแลตซีสต์แต่ผู้หญิงก็ยังคงเป็นกลุ่มเสี่ยง ฉะนั้น เราควรดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี หมั่นตรวจสุขภาพร่างกายประจำปีอย่างสม่ำเสมอนะคะ