6 วิธี ‘Move on’ ไปข้างหน้า
แก้ปัญหา ‘Move on’ เป็นวงกลม
การ Move on ไปข้างหน้าสำหรับบางคนไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้ บางคนบอกว่า“ฉันก็ Move on นะ แต่ Move on เป็นวงกลม” เชื่อว่าทุกคนก็คงรู้สึกเหมือนกัน เพราะความสัมพันธ์ที่มันจบลงไปแล้ว ก็ใช่ว่าความรู้สึกจะจบตามไปด้วย
เราทุกคนต่างมีช่วงเวลาที่หวนนึกถึง ร้องไห้ และเจ็บปวด ผู้หญิงบางคนลืมได้ แต่บางคนบอกว่าเรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลากว่าจะหาย ซึ่งก็ไม่ต่างกับผู้ชาย เพราะผู้ชายบางคนใช่ว่าจะลืมแฟนเก่าได้ง่ายดายแบบที่เราเข้าใจ ถ้าอยากรู้ว่าผู้ชายลืมแฟนเก่าไม่ได้น่ะจริงหรอ คลิกเม้าส์เข้าไปอ่านที่ ที่ผู้ชายลืมแฟนเก่าไม่ได้..เพราะยังเสียดาย หรือแค่นึกถึงเฉย ๆ ได้เลย!
แต่ถ้าสาว ๆ ของเรารู้สึกว่า ใช้เวลาหลายปีแล้ว เราก็ยังย่ำอยู่ที่เดิม คงต้องเปลี่ยน Mind set ในความพยายามที่จะ Move on บางอย่างแล้วล่ะ เริ่มจากข้อแรกที่เราแนะนำเลยก็คือ
1. ยอมรับความรู้สึกตัวเอง
เราไม่สามารถปฏิเสธกับตัวเองได้ว่าลึก ๆ แล้วเราเสียใจมาก แต่การบอกว่า “ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว” ไม่สามารถทำให้คุณไปข้างหน้าได้หรอก เจ็บก็บอกว่าเจ็บ ยังรักก็บอกว่ายังรัก อย่าหลีกเลี่ยงอารมณ์ของตัวเองเพราะว่ามันทำให้คุณรู้สึกว่าคุณกำลังเดินหน้าต่อ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ คือบาดแผลที่ยังฝังลึก มันเหมือนกับว่าคุณทายาที่แผลแค่ภายนอก แต่ยังมีสิ่งสกปรกอยู่ใต้แผลเต็มไปหมด รอวันที่มันอักเสบแล้วคุณก็เจ็บกว่าเดิม ดังนั้น ถ้าคุณอยากให้แผลของคุณหาย คุณควรยอมรับความรู้สึกของตัวเองก่อน ไม่จำเป็นต้องรีบปิดกั้นเขาออกไป
2. พูดถึงมัน
บางคนเชื่อว่าวิธีที่จะ Move on ไปข้างหน้าได้เร็วที่สุดคือการไม่พูดถึงมัน แต่อยากบอกว่าคุณอย่าต่อสู้กับสิ่งนี้เพียงลำพังเลย การที่คุณพูดความรู้สึกของคุณให้คนอื่นฟังมันเป็นวิธีที่ดีมากที่จะช่วยให้คุณได้ระบายความเศร้าในใจและเหงาน้อยลง ลองแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนสนิทหรือคนที่ไว้วางใจฟังดู เพราะอย่างน้อยคุณก็ได้รู้ว่ายังมีคนที่รับฟังเรื่องราวและเข้าใจความรู้สึกของคุณอยู่บ้าง บางทีอาจจะได้คำแนะนำดี ๆ ที่ช่วยให้คุณ Move on เร็วขึ้นก็ได้
3. ยอมรับว่าเขาไม่ใช่ของเรา
เหตุผลใหญ่ที่ทำให้บางคนไม่สามารถ Move on ได้คือการคิดว่าเราไม่สามารถรักใครได้อีกนอกจากเขา หรือไม่สามารถเห็นตัวเองรักกับคนอื่นได้ คนนี้คือที่สุดสำหรับฉันแล้ว การคิดแบบนี้อันตรายมาก เพราะมันทำให้คุณคาดหวังว่าเขาจะกลับมา ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “หวังลม ๆ แล้ง ๆ” ซึ่งไม่มีประโยชน์เลยที่คุณยังคิดแบบนี้ แต่ก็เข้าใจว่าไม่ง่ายที่ต้องยอมรับว่าเขาไม่ใช่ของเรา เพราะของแบบนี้ต้องใช้เวลา ไม่มีใครรู้ว่านานแค่ไหน ตอนนั้นคุณอาจจะเจอคนที่ดีกว่านี้ก็ได้ และเขานี่แหละที่เยียวยาแผลใจคุณได้ดีที่สุด
4. ลดการติดต่อ
แรก ๆ คงไม่มีใครทำได้ที่ต้องตัดใจเลิกคุยกับคนที่เขาเคยเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา แต่ถ้าคุณสองคนตกลงกันแล้วว่ามันจบ การคุยต่อจะเป็นการยืดเวลาและยิ่งทำให้คุณ Move on ได้ช้าลง มิหนำซ้ำอาจเจ็บกว่าเดิม เพราะต้องเจอกับคำพูดที่คุณเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ยิน อารมณ์ราวกับว่าไม่เคยรักกันมาก่อน เพราะฉะนั้น คุณควรลดการติดต่อลง อย่าให้ความรู้สึกและความผูกพันมากวนแผลของคุณ เพราะยิ่งกวนมากแผลก็ยิ่งหายยาก
5. ให้อภัย
การให้อภัยเป็นรูปแบบความรักที่สวยงามที่สุด แต่ก็เป็นสิ่งที่ใช้เวลานานที่สุด แล้วถ้าให้อภัยได้คุณก็จะมีความสุขที่สุดเช่นกัน การให้อภัยในที่นี้ไม่ได้หมายถึงให้อภัยเขาอย่างเดียว แต่ให้อภัยตัวเองด้วย เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง คงไม่มีใครอยากลากอะไรหนัก ๆ ไปตลอดชีวิต เพราะคุณก็รู้ว่ามันเหนื่อย โดยเฉพาะความรู้สึกที่คุณต้องลากมันไปทุกที่ที่คุณไป ซึ่งคุณเองก็รู้ว่ามันทำให้คุณเดินช้า บางทีคุณอาจรู้สึกว่ามันไม่แฟร์ที่เขาทำแบบนี้แล้วเราต้องให้อภัย แต่เชื่อเถอะว่าวันหนึ่งคุณจะอภัยให้เขาได้ และเมื่อถึงวันนั้นจะเป็นวันที่คุณเรียนรู้ว่าตัวเองไม่สามารถเปลี่ยนอดีตและทำได้แค่ให้อภัยเท่านั้น
6. ทำสิ่งที่คุณรัก
อย่าปล่อยตัวเองให้มีเวลาคิดฟุ้งซ่าน เพราะเสียเวลาเปล่า ออกไปทำสิ่งที่คุณรักจะดีกว่า วิธีนี้ช่วยได้ดีเลยล่ะ ลองสังเกตเวลาที่คุณอยู่กับเพื่อนหรือครอบครัว เมื่อไรที่คุณหัวเราะ คุณจะไม่ค่อยนึกถึงเรื่องนี้ หรืออาจจะลองหาอะไรใหม่ ๆ ทำ เพื่อให้รู้ว่าตัวเองชอบไหม ถ้าชอบ..คุณจะมีความสุขที่ได้ทำมันจนลืมเรื่องนี้ไปเลยล่ะ
หลายคนคงเคยได้ยินว่าความรักเหมือนกับการอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เมื่อเราอ่านมาจนถึงหน้าสุดท้าย แน่นอนว่าถึงเวลาที่เราต้องวางหนังสือเล่มนั้นลง แล้ว Move on ต่อไป แม้ว่าเรื่องราวระหว่างทางมันจะดีแค่ไหน แต่คงไม่มีใครอยากอ่านเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ไปตลอดชีวิต ถ้ารู้ว่าตอนจบมันเจ็บปวด
‘เมื่อเวลาผ่านไป เราก็นึกถึงมันได้เพียงแค่บางช่วงบางตอนเท่านั้น เพราะยังไงเราต้องเดินหน้าต่อ เพื่อได้เจอกับหนังสือเล่มใหม่ ไม่มีใครรู้ว่ามันจะดีเหมือนเล่มเดิมไหม แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ทำให้เราอยู่ที่เดิมไม่ใช่เหรอ’