เตรียมตัวก่อนเที่ยวเซี่ยงไฮ้ เมืองทันสมัย ไม่ต้องขอวีซ่า
ใกล้สิ้นปีแล้ว ใครยังหาที่เที่ยวไม่ได้ แนะนำให้ “เที่ยวเซี่ยงไฮ้” เลย เพราะตอนนี้ฟรีวีซ่า ไปเที่ยวได้ง่าย แถมยังได้ตื่นตาตื่นใจกับที่เที่ยว เมืองทันสมัย คาเฟ่ อาหาร และแหล่งชอปปิงมากมาย เรียกว่าเป็นอีกที่เที่ยวประเทศจีนที่ควรไป!
เซี่ยงไฮ้ เมืองทันสมัยที่น่าไปสักครั้ง
เซี่ยงไฮ้ เรียกว่าเป็นเมืองที่ผสานทั้งความทันสมัยและวัฒนธรรมโบราณไว้ได้อย่างลงตัว ทั้งตึกสวย ๆ สไตล์ยุโรปที่ได้รับอิทธิพลตะวันตก ย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยแหล่งชอปปิง ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้ได้ไปถ่ายรูปเช็คอิน แต่ก่อนจะไปเที่ยว มาเตรียมตัวกันก่อนว่าควรไปเที่ยวช่วงเดือนไหนดี ?
เที่ยวเซี่ยงไฮ้ ช่วงเดือนไหนดี ?
ถ้าถามว่าไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ช่วงไหนดี ? จริง ๆ แล้วสามารถเที่ยวได้ทั้งปีเลยนะ ซึ่งแต่ละฤดูก็จะได้เจอบรรยากาศแตกต่างกันออกไป บางเดือนก็ได้ชมซากุระ บางเดือนได้ชมใบไม้เปลี่ยนสี ได้ทานขนมไหว้พระจันทร์ เป็นต้น
ฤดูหนาว (เดือนธันวาคม–เดือนกุมภาพันธ์)
ในช่วงหน้าหนาว เซี่ยงไฮ้จะมีอุณหภูมิ 0-10 องศา มาพร้อมลมเย็น ๆ ถ้าโชคดีก็อาจเจอหิมะตกด้วยนะ ควรเตรียมเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ ถุงมือ และหมวกให้พร้อม
ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม–เดือนพฤษภาคม)
อุณหภูมิประมาณ 10-20 องศา อากาศจะอบอุ่น สบาย ๆ อาจจะมีฝนตกบางวัน สามารถแต่งตัวแฟชั่นได้เลย ที่สำคัญเที่ยวช่วงนี้ยังได้ฟินกับดอกแมกโดเลียและดอกซากุระบานสะพรั่งเต็มสวนสาธารณะ
ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน–เดือนสิงหาคม)
ช่วงฤดูร้อนของเซี่ยงไฮ้คล้าย ๆ ไทยเลย อุณหภูมิ 25-35 องศา จะร้อนชื้น ท้องฟ้าแจ่มใส แต่ก็อาจจะมีฝนตกด้วย เหมาะแก่การเดินชมเมือง ล่องเรือแม่น้ำหวงผู่ ชอปปิงในห้างสรรพสินค้า
ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน–เดือนพฤศจิกายน)
เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของเซี่ยงไฮ้ อุณหภูมิ 10-20 องศา เย็นสบาย สามารถเดินเที่ยวชิล ๆ ได้โดยไม่ร้อน ที่สำคัญยังได้ชมใบไม้เปลี่ยนสีทั่วเมืองด้วย และถ้าไปช่วงวันไหว้พระจันทร์ก็จะได้ลองชิมของไหว้พระจันทร์ของจีน
เรื่องควรรู้ก่อนเที่ยวเซี่ยงไฮ้
ก่อนจะไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ มีเรื่องที่ควรรู้ ดังนี้
- ฟรีวีซ่า 30 วัน
- เวลาเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง
- ใช้สกุลเงิน CNY 1 หยวน = ประมาณ 4.73 บาท (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน ณ ขณะนั้น)
- ใช้จ่ายผ่าน Alipay หรือ True Money ได้
- แอปที่ควรมีติดเครื่อง คือ Alipay ใช้จ่าย, Baidu map ค้นหาสถานที่ ภาษาจีนล้วน, Didi Chuxing เรียกรถ, We Chat ใช้คุยหรือสั่งอาหาร และ Metro Shanghai ดูเส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดิน
- การเล่น Facebook Instargram และ X ต้องเปิดโรมมิ่งจากไทย
- ผู้คนสูบบุหรี่หนัก ใครไม่ชอบกลิ่นควรพกแมสก์ไปด้วย
- ใช้ไฟ 220 โวลท์เหมือนไทย แต่ควรพก Universal Adapter
จุดเช็คอินเซี่ยงไฮ้ที่ไม่ควรพลาด
หอไข่มุก (The Oriental Pearl Tower)
หอไข่มุก เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของเซี่ยงไฮ้เลย ที่นี่เป็นหอส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ที่สูงที่สุดในโลก ความสูง 468 เมตร ตั้งอยู่ในย่านผู่ตง เป็นการผสมผสานสถาปัตยกรรมทันสมัยแห่งโลกอนาคตกับศิลปกรรมจีนโบราณ ด้านบนเปิดเป็นจุดชมวิว 360 องศา เห็นทิวทัศน์เมืองเซี่ยงไฮ้ได้สุดลูกหูลูกตา
เดอะบันด์ (The Bund)
ทางเดินเลียบริมแม่น้ำ ความยาว 1.8 กิโลเมตร ที่ล้อมไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมยุโรปสุดคลาสสิค เป็นหนึ่งมุมถ่ายรูปที่ต้องไปเลย
เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ (Shanghai Disneyland)
ธีมพาร์คดิสนีย์แลนด์แห่งที่ 6 ของโลก ภายในตกแต่งน่ารัก มีทั้งหมด 8 โซน ได้แก่ Zootopia, Mickey Avenue, Gardens of Imagination, Fantasy World, Adventure Island, Treasure Cove, Tomorrowland และ Disney·Pixar Toy Story Theme Park บอกเลยว่าน่ารักทุกโซน อย่าลืมแต่งตัวน่ารัก ๆ ไปถ่ายรูปกันนะ
สวนอี้หยวน (Yu Garden)
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ อายุ 100 กว่าปี เต็มไปด้วยบรรยากาศจีนโบราณ ภายในจะได้พบกับสถาปัตยกรรมสวย ๆ แถมมีพันธุ์ไม้ให้ชมเพียบ เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในสมัยราชวงศ์หมิง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารให้เลือกทานมากมาย
ถนนหนานจิง (Nanjing Road)
ใครที่เป็นสายชอปปิงต้องมาที่ ถนนหนานจิง ที่รวบรวมแบรนด์ดังเอาไว้เพียบ บรรยากาศคึกคัก จะเดินถ่ายรูปชิล ๆ หรือเดินหาของกิน ชอปปิงก็เพลิน เรียกว่าเสียทรัพย์ชัวร์!
เมืองน้ำโบราณจูเจียเจี่ยว (Zhujiajiao)
ที่นี่เรียกว่าเป็นเวนิสแห่งตะวันออก ภายในจะมีแม่น้ำที่รอบข้างมีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึก สามารถนั่งเรือชมความงดงามของบ้านเมืองสไตล์จีนโบราณได้
เมนูที่ต้องลองในเซี่ยงไฮ้
เสี่ยวหลงเปา
ถ้ามาเที่ยวเซี่ยงไฮ้ต้องมาลอง! กับ เสี่ยวหลงเปา ที่เหมือนซาลาเปา แต่พอกัดเข้าไปข้างในจะมีน้ำซุปรสกลมกล่อม ซึ่งมีหลายร้านให้เลือกชิมเลย แต่ถ้าใครอยากทานร้านนิยมก็ต้องไปที่ร้าน Nanxiang Steamed Bun Restaurant ได้รับรางวัลมิชลินไกด์หลายปีซ้อน
ซาลาเปาทอด
เมนูนี้เหมือนกับซาลาเปาทั่วไปแต่เอาไปทอด กรอบนอกนุ่มใน ส่วนไส้ก็จะเป็นไส้หมูสับ สัมผัสจะคล้าย ๆ เกี๊ยวซ่า ไส้ข้างในชุ่มฉ่ำ ทานคู่จิ๊กโฉ่ว บอกเลยว่าฟิน
หงซาวโร่ว
อีกหนึ่งเมนูที่หาทานง่าย หงซาวโร่ว เป็นอาหารจีนที่หาทานง่าย ทำจากหมูสามชั้น นำมาหั่นเต๋า ตุ๋นน้ำแดงจนเปื่อยนุ่ม รสชาติเข้มข้น คล้าย ๆ พะโล้บ้านเรา แต่ไม่มีน้ำ
หม่าล่าเซียงกัว
มาถึงเมืองจีนทั้งทีก็ต้องห้ามพลาดที่จะลองทานหม่าล่าผัด รสชาติต้นตำรับ มีหลายร้านให้เลือกเลย สายหม่าล่าเลิฟเวอร์ห้ามพลาด
บะหมี่หยางชุน
อีกหนึ่งเมนูที่หาทานง่าย ราคาไม่แพง ในชามจะมีแค่เส้นหมี่ น้ำซุป และผักโรย เป็นเมนูธรรมดาแต่เต็มไปด้วยความอร่อยแบบ Local
สำหรับใครที่ยังไม่เคยเที่ยวเซี่ยงไฮ้ ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ ได้เที่ยวสนุก เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น และก่อนไปอย่าลืมติดตามสภาพอากาศเพื่อเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะสมด้วยน้า รับรองเลยว่าเมื่อได้ลองไปเที่ยวแล้วจะต้องติดใจ อยากกลับมาเที่ยวอีกครั้งแน่นอน