![อนิเมะ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/elementor/thumbs/HelenaTemp_Ver3_15-04_salisa_V1cover_web-oo3dl431h9vij6q479qu275qgj4okn8eum34gz13cg.jpg)
10 ลิสต์อนิเมะญี่ปุ่น ที่ซ่อนอะไรไว้มากกว่าความสนุก
(No สปอยล์จ้า!!)
สถานการณ์กรุ่น ๆ ที่ต้อง WFH และต้องอยู่ติดห้อง แถมไม่ได้ไปไหนแบบนี้ มันต้องมีคนเหี่ยวเฉาแบบ Helena กันบ้างสิน่า จะออกกำลังกายก็ไม่มีแรง ทำงานอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเฉย ๆ ก็จิตตก งั้นก็ต้องหาตัวช่วยแล้วแหละ เราเลยแนะนำให้หาสิ่งนุ่มฟู เบาสมองมาบำรุงใจ!
พักอะไรที่ Realistic มาดูสิ่งเบาสมองกันบ้าง Helena เลยปิ๊งไอเดีย คัดลิสต์ 10 อนิเมะญี่ปุ่น ที่นอกจากจะสนุกแล้ว พล็อตยังไม่กลวง และมีอะไรมาให้คิดตามเบาๆ นั่งดูคลายเครียดกันฉ่ำปอดไปเล้ย!
(No สปอยล์จ้า!!)
![อนิเมะ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/2020/04/HelenaTemp_Ver3_15-04_salisa_V101.jpg)
Ponyo (2008)
Ponyo หรือ โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย เป็นอนิเมะตระกูล Studio Gibli (สตูดิโอจิบลิ) ที่ออกฉายเมื่อปี 2008 โดยใช้วิธีร่างแบบการเคลื่อนไหวของคลื่น ทั้งใต้น้ำ และบนผิวน้ำด้วยมือทั้งหมด อนิเมะเรื่องนี้นำเสนอภาพของวิถีชีวิตของสิ่งมีชีวิติบนโลก ทั้งมนุษย์ ธรรมชาติ ทั้งบนบก และใต้น้ำ ที่เราต่างคนต่างรู้ว่าต้องพึ่งพากันและกัน แต่ก็ไม่ได้ใยดีในเรื่องนี้นัก
ถ้าให้เล่าเรื่องย่อก็ดูเหมือนจะสปอยล์ใส่สาว ๆ ของเรา เลยขอรวบสั้น ๆ ว่าอนิเมะเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวเหนือธรรมชาติของมนุษย์บนดิน และสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ มีตัวนำเป็น Ponyo ปลาทองตัวน้อยวัย 5 ขวบ ที่หน้าตาน่ารักน่าหยิก พฤติกรรมของเธอก็เหมือนเด็กน้อยวัยที่กำลังอยากรู้อยากเห็น และ Sosuke (โซสุเกะ) เด็กชายวัย 5 ขวบ
เราได้ดูอนิเมะเรื่องนี้แล้วก็นึกเปรียบว่า Sosuke เสมือนตัวแทนของมนุษย์ และ Ponyo เป็นตัวแทนของธรรมชาติ ทั้ง 2 มีความเข้าอกเข้าใจกัน เหมือนกับการที่มนุษย์ก็ควรเข้าใจธรรมชาติ และอยู่ร่วมกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย
อนิเมะเรื่องนี้สอดแทรกข้อคิดได้เป็นอย่างดี ถ้าบ้านไหนมีเบบี๋ Helena ก็ขอแนะนำ เพราะน่ารักจิ้มลิ้มไปทั้งเรื่องเลย คนทำงานศิลปะ หรือสาว ๆ ที่หลงรักท้องทะเล จะต้องประทับใจแน่ ๆ เพราะภาพสวย สะกิดใจให้คนหันมารักสิ่งรอบตัว และเราจะเข้าใจธรรมชาติมากขึ้น
![อนิเมะ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/2020/04/HelenaTemp_Ver3_15-04_salisa_V102.jpg)
Only Yesterday (1991)
Only Yesterday หรือ ความทรงจำที่ไม่มีวันจาง เป็นอนิเมะเรื่องที่ 5 จากสตูดิโอ จิบลิ เรื่องราวของอนิเมะที่มี ‘ความทรงจำจากอดีต’ เป็นตัวเชื่อมอดีตกับปัจจุบันของ Taeko (ทาเอโกะ) ตัวละครหลัก
อนิเมะเรื่องนี้ใช้ความทรงจำในวัยเด็กอันเป็นสิ่งเลือนรางที่เราจะสามารถจำรายละเอียดได้เพียงเล็กน้อย และไม่ปะติดปะต่อ เว้นเสียแต่ว่า ความทรงจำเหล่านั้นมีผลกับจิตใจอย่างมาก แต่ในทุกตารางนิ้วในร่างกาย และในจิตใจของเราล้วนมีที่มาที่ไป หรือได้รับอิทธิพลมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตทั้งนั้น อนิเมะเรื่องนี้ก็ใช้สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตของ Taeko มานำเสนอว่ามันส่งผลต่อทุกสิ่งทุกอย่างในปัจจุบันของเธออย่างไร โดยเล่าเรื่องราวในปัจจุบันที่ดำเนินไปข้างหน้าเรื่อย ๆ และคั่นด้วยเรื่องราวจากอดีต เป็นความทรงจำสำคัญเก่า ๆ ที่มีผลกับเธอในปัจจุบัน แต่ไม่ต้องกังวลว่าการสลับอดีต และปัจจุบันไปมาจะงุนงงจนดูไม่รู้เรื่อง อนิเมะใช้การ Fade สี การเบลอขอบภาพออก เพื่อให้เราแยกอดีต และปัจจุบันได้ง่ายขึ้น
Only Yesterday เต็มไปด้วยความทรงจำระหว่างครอบครัว เพื่อนสมัยเด็ก และสถานที่ที่เคยอยู่ แถมตัวเรื่องยังกล่อมให้เราได้นึกถึงเรื่องราวของตัวเอง ความทรงจำลึก ๆ ที่เฟดไปมากแล้วให้กลับฟุ้งขึ้นมาใหม่ และได้พิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันกับตัวเอง Helena ดูแล้วคิดถึงชีวิตวัยเด็กของตัวเองชะมัด รับรองความน้ำตาซึมค่ะ จะเปิดดูกับผู้ใหญ่ที่บ้านก็ไม่เสียหาย เพราะอนิเมะใส่เรื่องราวของครอบครัวที่ตึงเครียด และเคร่งครัดลงไปพอสมควร ดูด้วยกันอาจฉุกใจใครบางคนก็ได้นะคะ ใครชอบบรรยากาศแบบญี่ปุ่นบ้าน ๆ ชานเมืองหน่อย ๆ แนะนำเลย
![อนิเมะ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/2020/04/HelenaTemp_Ver3_15-04_salisa_V103.jpg)
Let Me Eat Your Pancreas (2018)
I want to eat your pancreas (Kimino Suizo wo Tabetai) มีชื่อภาษาไทยแสนประหลาดว่า เพราะหัวใจใกล้ตับอ่อน แล้วทำไมต้องตับอ่อนกันนะ? อย่างนี้ค่ะสาว ๆ ชื่อของอนิเมะเรื่องนี้มาจาก ‘วลี’ ที่ผลิตมาจากความเชื่อดั้งเดิมของคนญี่ปุ่น เค้าเชื่อว่า ‘ถ้าเจ็บป่วยส่วนไหน ก็ให้กินอวัยวะส่วนนั้นของสัตว์ แล้วร่างกายจะแข็งแรงขึ้น’
อนิเมะเรื่องนี้ดำเนินเรื่องโดยพระเอกที่มีคาแรคเตอร์ Introvert แบบหนุ่มจืด เขาดันไปบังเอิญเจอบันทึกที่ทำให้รู้ว่าเพื่อนร่วมชั้นซี่งเป็นนางเอกกำลังป่วยด้วยโรคตับอ่อนแอ และจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แถมคนที่รู้เรื่องนี้ดันมีแค่เธอ และพี่ชาย เจ้าพระเอกแสนจางของเราก็เลยต้องช่วยเธอเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ และอยู่เคียงข้างเธอจนวินาทีสุดท้าย (ที่ก็ไม่ได้ตายด้วยโรคร้ายหรอกนะ)
12 ปีต่อมา พระเอกของเราได้กลับมาเป็นครูในโรงเรียนที่เคยเรียน และเขาก็ได้พบความลับบางอย่างของหญิงสาว ส่วนความลับจะเป็นอะไรนั้น อยากให้ไปลองดูกันต่อ
อนิเมะเรื่องนี้น้ำดีใช้ได้เลยแหละ บรรยากาศเป็นญี่ปุ่นในฤดูใบไม้ผลิ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นช่วงที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น และ I want to eat your pancreas ยังมีเวอร์ชัน Live Action ในชื่อ Let Me Eat Your Pancreas หรือ ‘ตับอ่อนเธอนั้นขอฉันเถอะนะ’ อีกด้วย (พระเอกหล่อมากกกก) ยิ่งทำให้ภาพจำของญี่ปุ่นจากหนังเรื่องนี้ ชัดขึ้นมาอีกเป็นกอง ลองไปทำความเข้าใจ ว่าทำไมต้องเป็น ‘ตับอ่อน’ ด้วยกันนะคะ
![อนิเมะ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/2020/04/HelenaTemp_Ver3_15-04_salisa_V104.jpg)
Grave of the Fireflies (1988)
ต่อให้ไม่เคยดูก็ต้องเคยได้ยินชื่อ Grave of the Fireflies หรือ สุสานหิ่งห้อย อนิเมะในตำนานจากสตูดิโอจิบลิกันมาบ้าง ว่ากันว่า Grave of the Fireflies เป็นอนิเมะเรื่องที่เกินต้านที่จะไม่เสียน้ำตาให้จริง ๆ
เนื้อเรื่องดำเนินโดยสองพี่น้องที่กำพร้าแม่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พี่ชายต้องดูแลน้องเพียงลำพัง ไม่ได้มีเหตุการณ์พิลึก พิสดารอะไรทั้งนั้น เป็นการดำเนินเรื่องเรียบ ๆ ว่าแต่ละวันพวกเขาใช้ชีวิตอย่างไร พี่ชายมีหน้าที่ดูแลน้องสาวที่ยังเป็นแค่เด็กเล็ก เธอมีความสดใส และไร้เดียงสา วิ่งเล่นสนุกสนานไปตามประสา แต่เพราะอยู่ในภาวะสงคราม พวกเขาไม่มีเงินมากพอ ทำให้การกินอยู่เป็นไปอย่างอดอยาก และน่าสะเทือนใจ การเป็นอยู่ที่ไม่ดีก็ทำให้น้องสาวเกิดเจ็บป่วย และเกิดโศกอนาถตกรรมตามมา
เนื้อเรื่องสะท้อนความโหดร้ายของสงครามผ่านครอบครัวชนชั้นล่าง ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ มันสะเทือนใจจนเราตั้งใจว่าจะไม่มีการดูอีกเป็นครั้งที่ 2 แต่เราก็เชื่อว่า การดูอนิเมะ หรือหนังสักเรื่องตอนเรายังเด็ก พอกลับมาดูตอนโต ความคิดที่มีต่อหนังของเราจะเปลี่ยน เพราะฉะนั้นมาดูไปด้วยกันนะคะ
![อนิเมะ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/elementor/thumbs/HelenaTemp_Ver3_15-04_salisa_V105-oo3dl8rr4pji45mkzw4kosei32x2592kuppjg9ctc8.jpg)
*มีความลับในโปสเตอร์ของอนิเมะเรื่องนี้มาฝาก ถ้าเราลองปรับสีในโปสเตอร์ให้สว่างขึ้น จะพบว่าเงาสีดำบนท้องฟ้า คือเครื่องบินทิ้งระเบิด B-29 นั่นเอง แปลว่า สิ่งที่สองพี่น้องกำลังเล่นด้วยกัน ไม่ใช่หิ่งห้อย แต่เป็นระเบิดที่ถูกทิ้งลงมา
![อนิเมะ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/2020/04/HelenaTemp_Ver3_15-04_salisa_V106.jpg)
Fireworks (Uchiage Hanabi) (2017)
Fireworks (Uchiage Hanabi) หรือในชื่อภาษาไทย คือ ระหว่างเราและดอกไม้ไฟ คืออนิเมะที่มีบรรยากาศแบบฤดูร้อนของญี่ปุ่น เป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่ถกเถียงกันว่า ‘ดอกไม้ไฟเป็นทรงกลมหรือทรงแบน ถ้ามองจากด้านข้าง’ พวกเขาต้องไปหาคำตอบกันในงานเทศกาลดอกไม้ไฟ และทบซ้อนด้วยเรื่องราวความรักของเด็กวัยรุ่นในคืนเทศกาลดอกไม้ไฟนั้น
เอาเป็นว่า Fireworks เป็นอนิเมะ Friend Zone เรื่องหนึ่งที่ภาพสวยล้ำมาก ๆ บวกด้วยเพลงประกอบอนิเมะอย่างเพลง Uchiage Hanabi โดย DAOKO × Kenshi Yonezu ที่ฟังครั้งแรกแล้วให้ความรู้สึกถึงเทศกาลดอกไม้ไฟ และหน้าร้อน จนเรารู้สึกร้อนตามจริง ๆ นอกจากจะตื่นตาตื่นใจกับแสงสีที่จัดเต็มในอนิเมะเรื่องนี้แล้ว เค้ายังสอดแทรกมุมมองของตัวละครแต่ละคนที่มีต่อ ‘ดอกไม้ไฟ’ เอาไว้ เราจะได้เห็นถึงความหลากหลายทางความคิด ที่ตัวเรามองว่ามันเป็น 1 นี่นา แต่จริง ๆ แล้วมันก็เป็น 2 หรือจะเป็น 4 ก็ได้ นั่นเพราะเราคิดกันคนละแบบ อนิเมะเรื่องนี้จะสะท้อนให้เห็นการดำเนินชีวิต ความสัมพันธ์ และความคิดที่แตกต่างกันค่ะ
![อนิเมะ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/2020/04/HelenaTemp_Ver3_15-04_salisa_V107.jpg)
Your Name (Kimi no Na wa) (2016)
ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยสำหรับ Your Name (Kimi No na Wa) หรือ หลับตาฝันถึงชื่อเธอ ที่ไม่เพียงแค่จะฮิตถล่มทลายเป็นปรากฏการณ์ในญี่ปุ่นเท่านั้น ประเทศไทยของเราก็คลั่งอนิเมะเรื่องนี้ใช้ได้
Your Name เป็นผลงานของ Makoto Shinkai ปรมาจารย์แห่งวงการอนิเมะ ที่มีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์ ตัวอนิเมะเรื่องนี้ เป็นแนว Romantic/ Sci-Fi เล่าถึงความรักของหนุ่มสาวสองคน ที่ถูกเชื่อมโยงดวงชะตากันด้วยดวงดาว และมี ‘ช่วงเวลาโพล้เพล้’ ที่ภาษาญี่ปุ่นโบราณเรียกว่า คะวะตะเระ (彼は誰) เป็นตัวเชื่อมอีกตัว เนื้อเรื่องของ Your Name ออกจะล้ำ แบบที่ดูครั้งแรกต้องมีสับสน และงงเล็กน้อย แต่เชื่อเถะ ว่าคุ้มค่าที่จะดูจริง ๆ
อนิเมะเรื่องนี้โดดเด่นด้วยลายเส้นเนี้ยบ ๆ ทั้งเมืองอิโตโมริ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถานที่จริงแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นสถานที่ในโตเกียว ที่เหมือนจริงแบบเทียบกันได้, โทนสีแบบ Vanilla Sky ของช่วงเวลาโพล้เพล้ และดนตรีประกอบ ที่ยิ่งส่งให้อนิเมะเรื่องนี้สมบูรณ์แบบที่สุด ขับร้องโดย RADWIMPS ได้รับความนิยมในไทยอย่างมาก จนตัววงออกมาทวีตขอบคุณเป็นภาษาไทยเลยทีเดียว ถ้าจะมีเรื่องไหนฉุดให้เราดิ่งได้ทุกองค์ประกอบ ขอแนะนำ Your Name ไว้เป็น 1 ในตัวเลือกเลย
![อนิเมะ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/2020/04/HelenaTemp_Ver3_15-04_salisa_V108.jpg)
A Silent Voice (2016)
ปิดท้ายด้วย A Silent Voice หรือ รักไร้เสียง อนิเมะน้ำดีอีกเรื่อง ที่แม้จะไม่ได้ทำรายได้สูงลิ่วเท่า Your Name ที่ฉายในปีเดียวกัน แต่ A Silent Voice ก็จุดพลังเล็ก ๆ ให้คนตระหนักถึงการ Bully เพื่อนในโรงเรียนที่ยังคงเกิดขึ้นจริงในญี่ปุ่น
ความงดงามของ A Silent Voice บอกเล่าผ่านสาวน้อยวัยมัธยมที่พิการทางการได้ยิน จึงต้องใช้เครื่องช่วยฟัง ใช้ภาษามือ และสมุดโน้ตในการสื่อสาร เรื่องราวในโรงเรียนดำเนินไปจนกระทั่งคนรอบข้างเริ่มมองความพิการของเธอเป็นภาระ จึงเริ่มตีตัวออกห่าง และเธอเริ่มถูกกลั่นแกล้งด้วยความคึกคะนอง แม้ว่าเธอจะพยายามปรับตัวในการมีเพื่อนแค่ไหน แต่เสียงของเธอก็ไปไม่ถึงสักที เรื่องผูกปมโดยทิ้งให้หัวโจกที่กลั่นแกล้งเธอถูกสังคมรุมกลั่นแกล้งบ้าง จนตัวเขานึกถึงสิ่งที่เคยทำกับเธอไว้ และต้องการที่จะแก้ไขมัน แต่จะเป็นอย่างไร ต้องลองไปดูกันค่ะ
โดยส่วนตัว Helena คิดว่าอนิเมะเรื่องนี้ ตั้งใจถ่ายทอดปัญหาที่ยังเกิดจริงในสังคมวัยรุ่นญี่ปุ่นผ่านตัวละครที่พิการทางการได้ยิน เพราะผู้ถูกกระทำไม่สามารถเปล่งเสียงบอกความในใจได้ ใครอ่อนแอกว่าก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นตัวประหลาด และทุกวันนี้ ปัญหาเหล่านี้ก็ยังไม่หายไป การที่เด็ก ๆ ได้ดูอนิเมะเรื่องนี้ อาจจะทำให้พวกเขาเข้าใจกันและกันมากขึ้น และลดปัญหาการรังแกระหว่างกันลง
![อนิเมะ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/2020/04/HelenaTemp_Ver3_15-04_salisa_V29.jpg)
From Up on Poppy Hill (2011)
อนิเมะของ Studio Ghubli ที่มีความเป็นญี่ปุ่นสูง สอดแทรกสิ่งแวดล้อม หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เช่น การแทรกภาพการเตรียมจัดงานโตเกียวโอลิมปิกช่วงปี 1963 และภาพชีวิตประจำวันแบบญี่ปุ่น บวกกับเพลงประกอบน่ารักน่าชังสไตล์จิบลิก็ยิ่งน่าดูเข้าไปใหญ่
เนื้อเรื่องเล่าถึง อูมิ และชุน นักเรียนมัธยมปลาย ซึ่งทั้งคู่ทำงานผลิตหนังสือพิมพ์ของโรงเรียนที่ชุนเป็นบรรณาธิการอยู่ และมีอูมิมาช่วยทำงาน และช่วงนั้นมีนโยบายรื้อถอนอาคารชมรมนักเรียนที่เก่าโทรม อูมิจึงเกิดไอเดียทำความสะอาด และซ่อมแซมอาคารครั้งใหญ่เพื่อให้อาคารทรงตะวันตกยังคงอยู่ต่อไป ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มพัฒนาขึ้นตามสเต็ป แต่แล้วก็พบว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวไม่สามารถพัฒนาเป็นความรักแบบหนุ่มสาวได้ แต่บทสรุปของทั้งสองจะเป็นอย่างไร ต้องไปชมกัน!
แฟนอนิเมะตระกูลจิบลิน่าจะทราบถึงความละเอียดอ่อนในการทำอนิเมะสักเรื่องกันอย่างดี แต่เรื่องนี้พิเศษตรงที่คุณโกโร (ผู้สร้างอนิเมะ) เค้าลงมือทำวิจัยเมืองโยโกฮาม่า เพราะตั้งใจจะทำ Location ของอนิเมะให้ตรงตามรายละเอียดเมืองนี้ และใส่ความรก วุ่นวายสายตาแบบห้องเรียนของเด็กม.ปลายเข้าไป กลายเป็นภาพอาคารชมรมที่รก ๆ รุงรัง แต่กลับมีรายละเอียดสวยงาม นับว่าเป็นอนิเมะอีกเรื่องที่พิถีพิถีนในรายละเอียด และควรค่าแก่การดู เพื่อระลึกถึงวัยเรียนสุดเฟี้ยวของเราหลายคนเลย
![อนิเมะ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/2020/04/HelenaTemp_Ver3_15-04_salisa_V210.jpg)
Weathering with You (2019)
อนิเมะอีกเรื่องของอาจารย์มาโกโตะ ชินไคผู้สร้าง Your Name แม้แฟนอนิเมะของอาจารย์หลายคนจะบอกว่าอนิเมะเรื่องนี้ไม่ได้เป็น Masterpiece แบบเรื่องอื่น ๆ แต่ Weathering with You ก็ยังคงกลิ่นอายอบอุ่นของลายเส้น แสง สี และเพลงประกอบตามฉบับของอาจารย์ชินไคเฉกเช่นเดิม (ใช้วง Radwimps เจ้าเก่ามาร้องเพลงประกอบด้วยล่ะ) และเป็นความตั้งใจที่จะฉีกเนื้อหาออกจากอนิเมะเรื่องอื่น ๆ เพื่อให้เกิดภาพจำใหม่ ไม่เหงาหงอย หรือเล่นกับความรู้สึกเท่าอนิเมะเรื่องก่อนหน้า
ตัวอนิเมะเล่าถึงเด็กหนุ่มวัยมัธยมต้นชื่อ โฮดากะ โมริชิมะ ที่หนีออกจากบ้านในชนบทเพื่อเข้าไปหางานทำในโตเกียว จนสุดท้ายได้ทำงานเป็นนักเขียนให้นิตยสารแนวลึกลับเล่มหนึ่ง ต่อมาเขาก็ได้พบกับ ฮินะ อามาโนะ ที่มีพลังควบคุมให้อากาศสดใสได้ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงเปรียบเสมือนแสงตะวันที่สาดส่องให้กัน ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส
อนิเมะเรื่องนี้ดูง่ายไม่ซับซ้อน มีการเล่าเรื่องของสังคมคนญี่ปุ่น ผสมผสานความเป็นวิทยาศาสตร์ และตำนานความเชื่อเก่าแก่ของญี่ปุ่นเข้าด้วยกัน เพิ่มเติมด้วยการใส่ความสำคัญลงไปในตัวละครปลีกย่อย และลงดีเทลในสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เป็นอนิเมะเบา ๆ ที่รับรองความอร่อยย่อยง่ายจากอาจารย์มาโกโตะ ชินไค
![อนิเมะ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/2020/04/HelenaTemp_Ver3_15-04_salisa_V211.jpg)
HELLO WORLD (2019)
HELLO WORLD เธอ.ฉัน.โลก.เรา เป็นผลงานอนิเมะแนวไซไฟ และโรแมนติกดราม่า ที่พิเศษก็คือมีคนไทยร่วมทำด้วย!
เนื้อเรื่องก็คือปี 2027 ณ เกียวโต ประเทศญี่ปุ่น นาโอมิ คาตางากิ เด็กหนุ่มม.ปลายธรรมดาที่ไม่กล้าทำอะไร วัน ๆ เอาแต่อ่านหนังสือ และหวังว่าชีวิตของตัวเองจะมีความหมายมากกว่าการถูกกลืนไปในสังคมญี่ปุ่นที่เทา ๆ หม่น ๆ แบบคนเร่งรีบในโตเกียว ทว่าจู่ ๆ ก็ดันมีตัวเองจากในอนาคตมาบอกว่าเขาจะต้องเป็นแฟนกับ อิจิเกียว รูริ เพื่อนร่วมชั้น สาว Introvert ผู้ไม่เข้าสังคม และดูเป็นคนน่ากลัวจนเขายังไม่กล้าเข้าใกล้ เมื่อเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ของทั้งสองที่พัฒนาไปอย่างไม่รีบร้อนนั้นก็ทำให้หัวใจเขาเปลี่ยนใจ แต่มันกลับมาพร้อมความจริงอันน่าตกใจว่า อีกสามเดือนข้างหน้า รูริ จะต้องตายโดยเหตุการณ์ประหลาด และมีเพียงแค่นาโอมิ เพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะหยุดเหตุการณ์นี้ได้
ท่ามกลางภาพอนิเมะแบบ 3D ที่สมจริง อนิเมะเรื่องนี้ก็ดำเนินเรื่องอย่างรวบรัด ไม่ค่อยทิ้งจังหวะยืดเยื้อ แต่จะมีอะไรทำให้เราสงสัยใครรู้ และคิดตามไปอย่างเฉียบคม เพราะหนังจงใจให้ผู้ชมรู้สึกแบบเดียวกับตัวละคร แม้ตัวอนิเมะจะไม่ซับซ้อนจนทำให้รู้สึกว่าขาดมิติไปหน่อย แต่ก็เป็นสิ่งดีที่อนิเมะจะได้ทำหน้าที่ในการพาคนดูค่อย ๆ ไปสัมผัสชีวิตประจำวันของตัวละคร และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ก่อนจะโยงไปยังเหตุการณ์ที่เรียกว่า ‘คาดไม่ถึง เดาไม่ถูก’ เป็นระยะ ๆ ใครชอบเดาทางหนังต้องรับชมอนิเมะเรื่องนี้สักตั้งแหละนะ!
อนิเมะที่ให้ความสนุก สอดแทรกข้อคิดแบบไม่ตื้นเขิน และงดงาม ละเอียดอ่อน ยังมีอีกมาก ใครเป็นคอหนังสือการ์ตูนคงทราบกันดีว่า อนิเมะหลายเรื่อง เติบโตมาจากการ์ตูนเล่มบาง จนไปสู่ Live Action หนังโรงฟอร์มยักษ์ ใครที่อยากหาอะไรเบาสมอง ดูง่าย แต่ยังได้สาระ หวังว่าลิสต์อนิเมะที่เราเอามาแชร์ จะเป็นตัวเลือกให้การ WFH ของสาว ๆ ไม่น่าเบื่ออีกต่อไปนะคะ