![ปวดข้อมือ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/elementor/thumbs/_cover-oenm36ldi3x552bs308s1fkdy30w2h1ww0ejpcjdbk.jpg)
ปวดข้อมือ หลายอาทิตย์ไม่หายสักที
สัญญาณเตือน! อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
กิจวัตรประจำวันของสาวๆ เริ่มตั้งแต่ก่อนออกจากบ้าน คงเป็นการแต่งหน้าเสริมความมั่นใจ อีกทั้งการทำงานส่วนใหญ่ของสาวๆ ในยุคปัจจุบันคงหนีไม่พ้น การได้ทำงานอยู่ในห้องแอร์เย็นๆ มีโต๊ะทำงานเป็นของตัวเอง ใช้เวลากับคอมพิวเตอร์ คลิกซ้าย คลิกขวา เพื่อให้งานเสร็จในแต่ละวัน หลังเลิกงานอาจมีแพลนไปออกกำลังกาย หรือ Hangout สิ่งเหล่านี้คงเป็นเรื่องที่ชาวออฟฟิศอย่างเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่! เมื่อมองลึกลงไปกลับเจอเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ อย่างอาการของ Office Syndrome หรือ เจ็บนู่น ปวดนี่อยู่เสมอ
ด้วยการที่เราต้องนั่งทำงานเป็นระยะเวลานานๆ ติดต่อกัน จึงทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามร่างกายอยู่เสมอ แต่หากสาวๆ เริ่มมีอาการเจ็บหรือปวดข้อมือมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าสาวๆ กำลังมีภาวะพังผืดกดทับเส้นประสาท (Carpal Tunnel Syndrome) ได้
อะไรคือภาวะพังผืดกดทับเส้นประสาท
(Carpal Tunnel Syndrome)?
![ปวดข้อมือ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/2019/10/ปวดข้อมือ_01-ใส่เครดิตใต้ภาพด้วยค่ะ.jpg)
ภาวะ Carpal Tunnel Syndrome หรือ ภาวะพังผืดกดทับเส้นประสาท คืออาการที่เกิดขึ้นเมื่อเส้นประสาทข้อมือเส้นที่อยู่ใต้เส้นเอ็นของกระดูกไปกดทับเส้นประสาทที่สำคัญ จึงทำให้เกิดอาการปวดข้อมือ ซึ่งหากปล่อยไว้นานอาจทำให้มีอาการแขนอ่อนแรง จนนำไปสู่อาการกล้ามเนื้อแขนลีบในที่สุด ภาวะพังผืดกดทับเส้นประสาทถูกพบประมาณ 3.8% ในกลุ่มประชากรทั่วไป ส่วนใหญ่มักพบในกลุ่มผู้หญิงอย่างเราประมาณ 9.2% อาการเหล่านี้พบได้ตั้งแต่อายุ 20 ปีถึง 87 ปีเลยทีเดียว
สาเหตุของภาวะพังผืดกดทับเส้นประสาท
![ปวดข้อมือ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/2019/10/ปวดข้อมือ_02-สาเหตุ.jpg)
รู้หรือไม่? เพราะกิจวัตรประจำวันของเราเองนี่แหละที่ทำให้เกิดภาวะพังผืดกดทับเส้นประสาทจนกลายเป็นปวดข้อมือเรื้อรัง เนื่องด้วยความเป็นสาวออฟฟิศแบบเรา มักมีพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานติดต่อกัน ต้องใช้เม้าส์ ใช้คีย์บอร์ด จึงทำให้มีการเกร็งข้อมืออยู่ตลอดเวลา เมื่อนานเข้าอาจจะเกิดการกดทับได้ และยังพาลให้เกิดอาการตาล้าร่วมด้วย ป่วยแบบคูณสองไปเลย เช็คอาการตาล้าได้ที่ จ้องคอมนานจน ‘ตาล้า’ ดูแลยังไงให้ตากลับมาสวยปิ๊ง
นอกเหนือจากนั้น กิจวัตรประจำวันของเราก็มีส่วนทำให้เกิดอาการปวดข้อมือบ่อยๆ ได้ อย่างการทำอาการ หยิบจับกระทะ ตะหลิว หรือแม้แต่การแต่งหน้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นกิจวัตรที่สาวๆ หลีกเลี่ยงได้ยาก เพราะงานก็ต้องทำ ร่างกายก็ต้องรับผิดชอบ
มาเช็กกันหน่อย
เรากำลังก้าวเข้าไปในภาวะพังผืดกดทับเส้นประสาทหรือไม่?
![ปวดข้อมือ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/2019/10/ปวดข้อมือ_03-มาเช็กกันหน่อย.jpg)
หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสาวๆ เริ่มสงสัยกันว่าตัวเองจัดอยู่ในกลุ่มที่มีภาวะดังกล่าว หรือเริ่มมีอาการปวดข้อมือไหม Helena ขอแนะนำวิธีสังเกตอาการ ดังนี้
- มีอาการปวดข้อมือ หรือชาบริเวณฝ่ามือ บางรายอาจชาไปถึงปลายนิ้ว
- หากมีอาการปวดบริเวณข้อมือร่วมด้วย ลากยาวไปถึงท้องแขน คุณกำลังมีแนวโน้มจะมีอาการภาวะพังผืดกดทับเส้นประสาท
- ให้สาวๆ ลองงอข้อมือประมาณ 90 องศา แล้วหันหลังมือชนกันเป็นเวลา 1 นาที ซึ่งผู้ที่มีภาวะเสี่ยงในการเป็นพังผืดกดทับเส้นประสาทจะรู้สึกชาบริเวณฝ่ามือและปลายนิ้ว
หากยังไม่ชัดเจนแนะนำให้ไปพบแพทย์ คุณหมอจะให้สาวๆ หงายมือแล้วเคาะบริเวณปลายนิ้วมือ หากมีอาการพังผืดกดทับเส้นประสาท สาวๆ จะรู้สึกชอร์ต เนื่องจากมีอาการเสียวบริเวณเส้นประสาทดังกล่าว
อย่าเพิ่งกังวล! ภาวะพังผืดกดทับเส้นประสาทรักษาได้
![ปวดข้อมือ](https://helenathailand.co/wp-content/uploads/2019/10/ปวดข้อมือ_04-อย่าเพิ่งกังวล.jpg)
หากมั่นใจแล้วว่าอาการที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงการปวดข้อมือหรือเคล็ดขัดยอกธรรมดา แต่เป็นการยืนยันจากคุณหมอแล้วว่าสาวๆ มีภาวะดังกล่าวจริง คุณหมออาจจะให้สาวๆ พักงานสัก 3 – 4 อาทิตย์ แล้วใส่เครื่องพยุงข้อมือ ป้องกันการปวดข้อมือ เพื่อดามบริเวณข้อมือเอาไว้ หลังจากการใส่เครื่องพยุงข้อมือแล้ว คุณหมออาจฉีดยาสเตียรอยด์เพื่อหยุดยั้งอาการปวดข้อมือ แต่ในกรณีที่เป็นอาการขั้นรุนแรง คุณหมออาจเลือกที่จะผ่าตัดเพื่อคลายเส้นเอ็นบริเวณนั้น เพื่อให้หายได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคุณหมอแต่ละท่านด้วยนะคะ
ที่สาวๆ เห็นว่าอาการเจ็บนู่นปวดนี่นิดหน่อย ทายาคลายกล้ามเนื้อก็หาย แต่ในความเป็นจริงแล้วหากคุณมองข้ามสัญญาณอันตรายเหล่านี้ไป อาจเสี่ยงเป็นภาวะพังผืดกดทับเส้นประสาทได้ งานก็ขาด เงินก็หาย เพราะฉะนั้นสาวออฟฟิศควรยืดเส้นยืดสายบ้าง สังเกตอาการปวดข้อมือของตัวเองบ้าง หากต้องนั่งทำงานอยู่กับคอมทั้งวัน ควรลุกเดินไปนู่นมานี่ บิดเอว ยืดหลัง สะบัดหรือขยับข้อมือขึ้นลงบ้าง ทุก 1 ชั่วโมง ควรพักสัก 5 นาที เพื่อบรรเทาและป้องกันอาการปวดตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะการปวดข้อมือ เมื่อทราบแบบนี้แล้ว สาวๆ
คงจะเป็นกังวลกันใช่ไหมล่ะคะ ลองทดสอบอาการดูก่อน แล้วก็อย่าลืมยืดเส้นยืดสายระหว่างทำงานกันบ้าง กันไว้ดีกว่าแก้นะคะ <3
เมื่อทราบแบบนี้แล้ว สาวๆ คงจะเป็นกังวลกันใช่ไหมล่ะคะ ลองทดสอบอาการดูก่อน แล้วก็อย่าลืมยืดเส้นยืดสายระหว่างทำงานกันบ้าง กันไว้ดีกว่าแก้นะคะ <3