เทคโนโลยี Telemedicine บนแอป Raksa
ป่วยทักปรึกษาหมอได้ฟรี!
เทคโนโลยี Telemedicine เข้ามาช่วยทำให้การหาหมอง่ายขึ้น เพราะเชื่อว่าหลายคนเมื่อมีอาการเจ็บป่วยขึ้นมาไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม อันดับแรกที่เราจะทำเลยก็คือ เสิร์ช Google เป็นช่องทางที่ใช้ปรึกษาปัญหาและค้นหาคำตอบ และแน่นอนว่าเรามักพบกับอาการสัญญาณเตือน หรือคาดเดาว่าเป็นโรคร้ายแรงที่หนักขึ้นกว่าอาการจริงที่เป็นอยู่ แต่พอไปตรวจกับแพทย์จริง ๆ แล้วอาจไม่สบายเพียงเล็กน้อยก็ได้ เห็นไหมล่ะ…ว่าถึงยังไงเราก็ต้องไปโรงพยาบาลอยู่ดี ไม่อย่างนั้นก็หาหมอบนแอพลิเคชันนี่แหละ เป็นทางเลือกที่สะดวกและสามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาอีกด้วย ว่าแต่เทคโนโลยี Telemedicine คืออะไร แล้วมีประโยชน์อะไรบ้าง ตามไปทำความรู้จักกันเลย
Telemedicine คืออะไร ?
Telemedicine คือ เทคโนโลยีระบบแพทย์ทางไกล ช่วยทำให้ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์สามารถสื่อสารกันได้แบบเรียลไทม์ เหมือนกับการสื่อสารระบบ Video Conference ทำให้สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยจากทางไกลได้สะดวกมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ตามคำจำกัดความขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) คำว่า การแพทย์ทางไกล หรือ Telemedicine หมายถึง การจัดให้บริการด้านสาธารณสุขแก่ประชาชนที่อยู่ห่างไกล โดยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ อาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัย การรักษา และการป้องกันโรค รวมถึงการศึกษาวิจัย และเพื่อประโยชน์สำหรับการศึกษาต่อเนื่องของบุคลากรทางการแพทย์
จากอดีตสู่ปัจจุบันของ Telemedicine
ความจริงแล้วในประเทศไทย มีการนำ Telemedicine มาใช้หลายสิบปีแล้ว โดยผู้ก่อตั้งรุ่นแรก ๆ ของมูลนิธิแพทย์ชนบท อย่าง นพ.มานิตย์ ประพันธศิลป์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ครอบครัวและเวชศาสตร์ป้องกัน เป็นผู้มีประสบการณ์โดยตรงในเรื่องการรักษาพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล เมื่อหลายสิบปีก่อน พื้นที่ในชนบทส่วนใหญ่มักไม่มีแพทย์ประจำ มีเพียงบุคลากรทางการแพทย์ระดับต้นประจำอยู่เท่านั้น จึงมีการจัดหาเครื่องมือการสื่อสาร เช่น วิทยุสื่อสาร เพื่อพูดคุยกับแพทย์ โดยบุคลากรในพื้นที่จะซักถามอาการและตรวจคนไข้ตามคำแนะนำของแพทย์ แล้วแพทย์จึงทำการวินิจฉัยและให้คำแนะนำในการรักษาผู้ป่วยแก่บุคลากรในพื้นที่ แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีการสื่อสารอย่างมาก ทำให้ Telemedicine สามารถพูดคุยกันผ่านระบบ Video call เห็นหน้ากันและโต้ตอบได้แบบเรียลไทม์ ส่งผลให้ระบบแพทย์ทางไกลหรือ Telemedicine เติบโตและพัฒนาอย่างก้าวกระโดดตามไปด้วย
ข้อดีของ Telemedicine
รู้หรือไม่ว่า…การไปโรงพยาบาลของคนเราบางครั้งไม่มีจำเป็นเลย เมื่อปี 2013 การศึกษาในสหรัฐฯ โดย Truven Health Analytics ระบุว่า 71% ของผู้ป่วยที่เข้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใดเลย หรือเรียกได้ว่ามีการเจ็บป่วยหลายอย่างที่ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลก็ได้ ซึ่งเทคโนโลยี Telemedicine นอกจากจะช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลแล้ว ยังมีข้อดีอีกหลายข้อเลยนะที่เรายังไม่รู้
1.Telemedicine ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเวลาเดินทาง
หากไม่มีความจำเป็นจะต้องพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ผู้ป่วยก็ไม่ต้องเดินทาง สามารถใช้ Telemedicine ได้ ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ซึ่งการเดินทางในกรุงเทพฯ แค่คิดก็ไม่อยากจะออกจากบ้านแล้ว บางครั้งการจราจรอาจทำให้ป่วยมากกว่าเดิมก็เป็นได้ ทั้งนี้ผู้ป่วยในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ต้องเดินทางไกลเพื่อไปหาหมอ อาจมีค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ค่าอาหาร หรือค่าเสียเวลา
2.Telemedicine ปรึกษาแพทย์จากที่ไหนก็ได้
เมื่อใช้เทคโนโลยี Telemedicine ในการพบแพทย์แล้วทำให้หมดกังวลเรื่องข้อจำกัดของสถานที่ไปเลย ไม่ว่าผู้ป่วยจะอยู่ที่ไหนก็สามารถปรึกษาและพูดคุยกับแพทย์ได้ เพียงแค่มีอุปกรณ์สื่อสารพร้อมระบบ Internet นอกจากนี้ยังสามารถเลือกวัน เวลาที่สะดวกได้เองอีกด้วย
3.Telemedicine ช่วยรับคำปรึกษาก่อนตัดสินใจไปโรงพยาบาล
การพบแพทย์ผ่าน Telemedicine ก่อนที่จะตัดสินใจไปโรงพยาบาล สามารถช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าควรไปหรือไม่ เพราะหากว่าไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล มีอาการเพียงเล็กน้อย ไม่รุนแรง จะช่วยให้ไม่เสียเวลาและสามารถรักษาได้เลยด้วย
4.Telemedicine รับคำปรึกษาเป็นความเห็นที่สอง
การใช้ Telemedicine ในกรณีที่ผู้ป่วยไปแพทย์ที่โรงพยาบาลแล้ว แต่ยังมีข้อสงสัยอยู่ ครั้นจะกลับไปโรงพยาบาลอีกครั้งก็อาจเป็นเรื่องยุ่งยากวุ่นวาย ข้อนี้เองจะช่วยทำให้ได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ท่านอื่นเป็นความเห็นที่สองได้
5.Telemedicine ช่วยติดตามผลดูแลผู้ป่วยได้
แพทย์สามารถใช้ Telemedicine เพื่อตรวจและติดตามผลผู้ป่วยได้จากระยะไกล ผ่านระบบ Video call ทั้งตรวจอาการ ตอบคำถาม ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวต่าง ๆ ซึ่งในผู้ป่วยเรื้อรังก็สามารถให้คำปรึกษาได้เช่นกัน
เทคโนโลยี Telemedicine บนแอป Raksa
ป่วยทักปรึกษาหมอได้ฟรี
แอป Raksa เป็นแอปพลิเคชันโดยใช้เทคโนโลยี Telemedicine ปรึกษาแพทย์ผ่านการพิมพ์ข้อความ โทรศัพท์ รวมถึง Video call กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ได้รับใบอนุญาตประกอบอาชีพเวชกรรม ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ผ่ารถติด หรือรอคิวนาน ๆ ที่โรงพยาบาล สามารถใช้แอป Raksa เพื่อหาหมอได้ภายในไม่กี่นาที
แพทย์บนแอป Raksa มีประสบการณ์ทางวิชาชีพโดยเฉลี่ยมากกว่า 10 ปี ในการรักษาและมีประสบการณ์การให้คำปรึกษาผู้ป่วยในโรงพยาบาลชั้นนำ ทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา วางใจได้เพราะเราสามารถเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านที่เราต้องการปรึกษาได้เลย ซึ่งทางผู้พัฒนาแอป Raksa มีการให้ผู้ใช้งานใช้บริการของแอป Raksa ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกด้วยนะ
ขั้นตอนการใช้งานแอป Raksa
1.Download Application ทั้งระบบ iOS และ Google Play ได้ที่
https://apps.apple.com/th/app/raksa
https://play.google.com/store/apps/raksa
2.เข้าแอป Raksa ทำการลงทะเบียนให้เรียบร้อย
3.กรอกประวัติลงในช่องต่าง ๆ ให้ครบถ้วน
4.เมื่อเข้ามาแล้ว หน้าจอจะแสดงรายชื่อแพทย์ที่ออนไลน์พร้อมให้คำปรึกษาในขณะนั้น มีประวัติว่าเป็นแพทย์เฉพาะด้านไหน ทำงานที่ไหน และเรียนจบจากสถาบันใด รวมไปถึงค่าปรึกษา ไม่ต้องตกใจไปล่ะ เพราะ แอป Raksa มีทั้งแบบเสียเงินและแบบฟรี
5.เมื่อเลือกแพทย์ที่ต้องการปรึกษาได้แล้ว จะมีรูปแบบในการข้อรับคำปรึกษาให้เลือกได้ ไม่ว่าจะเป็น แชท, โทรคุย หรือจะ Video call ก็ได้แล้วแต่ผู้ใช้งานจะสะดวก
6.อธิบายอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัย ซึ่งสามารถใส่ภาพประกอบไปด้วยได้ แล้วเลือกระยะเวลาในการปรึกษา (15, 30, 45, 60 นาที)
7.จากนั้นทางแอป Raksa จะแจ้งค่าปรึกษา แล้วระบบจะทำการชำระเงิน ผู้ป่วยสามารถเข้าไปรอในห้องแชทเพื่อเตรียมตัวปรึกษาแพทย์ได้ทันที
8.เมื่อแพทย์ทำการให้คำปรึกษา ระบบจะจับเวลาตามที่เลือกไว้ เมื่อเสร็จสิ้นการปรึกษาแล้วเลือกกดปุ่มวางสายสีแดงได้เลย
9.แพทย์จะสรุปผลวินิจฉัย และจัดยาให้ตามอาการ สามารถกดสั่งซื้อยาจากแอป Raksa ได้เลย
โอโห! ไม่น่าเชื่อเลยว่าเดี๋ยวนี้เราจะสะดวกสบายในการหาหมอขึ้นแล้วด้วยเทคโนโลยี Telemedicine บนแอป Raksa แต่อย่างไรก็ตาม การขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำให้บอกอาการตามจริงกับแพทย์ เพื่อให้ได้ผลวินิจฉัยที่ดีที่สุด ป้องกันการเกิดอาการที่อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงได้ เมื่อการพบแพทย์เป็นเรื่องง่ายแบบนี้แล้ว ข้อสงสัยหรืออาการเจ็บป่วยจากปัญหาสุขภาพก็หมดไปทำให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้น
