ส่องทำเนียบ 8 ชีสเยิ้มยอดฮิต
กินคู่กับอะไรก็อร่อย!!!
ว่าด้วยเรื่องของ ‘ชีส’ (Cheese) สุดยอดวัตถุดิบและวัฒนธรรมการกินของชาวยุโรปที่ชาวเรานั้นเลิฟสุดๆ ด้วยความหอมมันออกเค็มนิดๆ ผสานกับสัมผัสยืดเยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้เมนูอาหารจากหลายสัญชาติทั่วโลกเลือกนำชีสมาเป็นองค์ประกอบของจานได้อย่างลงตัว
รู้หรือไม่ว่า? การทำชีสเป็นวิธีถนอมอาหาร
เพราะว่ากระบวนการทำชีสจะต้องรีดนมจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและจึงแปรรูปเป็น ‘ชีสก้อน’ ด้วยวิธีนำนมมาแยกโปรตีนและเติมเอนไซม์เรนนิน (Renin) หรือ ไคโมซิน (Chymosin) ลงไป ทำให้ได้ชีสก้อนที่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ (บางคนบอกว่าคล้ายนมบูด…แต่เราคิดว่าอร่อยดีนะ) ซึ่งวิธีการทั้งหมดทั้งมวลนี้คือการยืดอายุของนมไม่ให้เน่าไปเสียก่อน แถมยังเก็บไว้รับประทานได้นานขึ้น
ขึ้นชื่อว่าชีสเหมือนกัน แต่ทำไมรสชาติไม่เหมือนกันสักนิด
เหตุผลที่บนโลกนี้มีชีสหลายประเภทแถมยังมีรสชาติที่แตกต่างกันออกไป มาจากกระบวนการบ่มแบคทีเรียชนิดดีให้กัดกินน้ำตาลในนม ซึ่งต้องอาศัยความชื้น ประเภทของนมที่มีส่วนผสมของไขมันแตกต่างกัน ทั้งนี้ขณะอยู่ในขั้นตอนการบ่มก็สามารถใส่เกลือและเครื่องเทศเพื่อปรุงรสชาติได้ อีกทั้งเกลือยังเป็นอาวุธลับที่ควบคุมแบคทีเรียอีกด้วย เมื่อพิมพ์ชีสออกมาเป็นก้อนแล้วจึงเข้าสู่ขั้นตอนการเก็บชีสในอุณหภูมิและเวลาที่เหมาะสม ก่อนจะได้รสชาติเค็มๆ มันๆ ที่เรานำมาประกอบอาหารกันนั่นเอง
8 ชีสยอดฮิต…หน้าตาแบบนี้ควรกินคู่กับอะไรดีนะ ?
มอสซาเรลล่าชีส (Mozzarella Cheese)
ภูมิลำเนา : ตอนใต้ของอิตาลี เดิมทีทำมาจากนมควายแต่ปัจจุบันทำมาจากนมวัวแล้วนะ
รูปพรรณสัณฐาน : เนื้อชีสมีความยืดหยุ่น เหนียวนุ่ม กลิ่นไม่แรง
ท่าไม้ตาย : เป็นที่โปรดปรานของเหล่าผู้รักพิซซ่าและลาซานญ่าอย่างแท้จริง
เชดด้าชีส (Cheddar Cheese)
ภูมิลำเนา : ผลิตจากนมวัว ประเทศอังกฤษ ตำบล Cheddar จังหวัด Somerset
รูปพรรณสัณฐาน : เนื้อชีสเป็นก้อนกึ่งแข็ง สีเหลืองหรือส้มอ่อน รสชาติเค็มเล็กน้อย
ท่าไม้ตาย : เนื่องจากเป็นชีสที่ไม่ยืดเมื่อถูกความร้อน จึงถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นแฮมเบอร์เกอร์และแซนวิช
พาร์มีซานชีส (Parmesan Cheese)
ภูมิลำเนา : ผลิตจากนมวัว แถบแคว้น Parma ประเทศอิตาลี
รูปพรรณสัณฐาน : เนื้อแข็ง รสชาติเค็มมันเข้มข้น มีกลิ่นแรง
ท่าไม้ตาย : เป็นชีสที่ยิ่งบ่มนานจะยิ่งมีราคาสูง นิยมนำมาขูดโรยบนอาหารอิตาเลียน เช่น พาสต้า พิซซ่า และสปาเก็ตตี้
ชีสสวิส (Swiss Cheese)
ภูมิลำเนา : ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
รูปพรรณสัณฐาน : สีเหลืองอ่อน มีรูปโพรงอากาศทรงกลมที่เกิดขึ้นขณะเปลี่ยนนมให้เป็นชีส
ท่าไม้ตาย : เป็นต้นตำรับของชีสฟองดู (Fondue) อาหารประจำชาติของชาวสวิส
บลูชีส (Blue Cheese)
ภูมิลำเนา : ตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส
รูปพรรณสัณฐาน : มีลักษณะร่วน มาพร้อมลวดลายโดดเด่นอย่างสีเขียมปนน้ำเงินของสปอร์รา มีกลิ่นรุนแรง รสเค็มจัดจ้าน
ท่าไม้ตาย : บลูชีสจะรสชาติดีสุดๆ เมื่อกินคู่กับไวน์ ขนมปัง สลัดผัก และไก่อบชีส
เกาด้าชีส (Gouda Cheese)
ภูมิลำเนา : ประเทศเนเธอร์แลนด์
รูปพรรณสัณฐาน : รูปทรงกลมแบน เนื้อแข็ง ผิวด้านนอกจะเคลือบด้วยขี้ผึ้งทำให้มีสีแดงเข้ม รสชาตินมเข้มข้น
ท่าไม้ตาย : เนื่องจากรสชาติเค็มมันลงตัวจึงกินเปล่าๆ ได้เลย หรือว่าจะจับคู่กับไวน์สักแก้วก็อร่อยไม่แพ้กัน
คอทเทจชีส (Cottage Cheese)
ภูมิลำเนา : วัตถุดิบโฮมเมดจากชาวกรีก
รูปพรรณสัณฐาน : รสชาติอ่อน เนื้อนุ่ม มีลักษณะกลมคล้ายกับข้าวโพดคั่ว
ท่าไม้ตาย : เป็นชีสที่เหมาะกับคนควบคุมน้ำหนัก แนะนำให้ผสมกับสลัดผักเพื่อเพิ่มโปรตีน หรือจะทาบนขนมปังปิ้งสักแผ่น รวมทั้งนำมาใช้เป็นวัตถุดิบทำอาหารของคนที่กำลังดูรูปร่างก็ได้เช่นกัน
เฟต้าชีส (Feta Cheese)
ภูมิลำเนา : ประเทศกรีซ
รูปพรรณสัณฐาน : เนื้อชีสร่วนคล้ายบลูชีส ให้สัมผัสนุ่ม รสชาติเค็มอ่อนๆ
ท่าไม้ตาย : นิยมนำมาทำชีสพายใส่ในแซนวิชและสลัด
นอกจากชีสทั้ง 8 ชนิดที่เราหยิบยกมาฝากทุกคนในวันนี้ ยังมีความอร่อยจากแหล่งผลิตทั่วโลกอีกกว่า 3,000 ชนิด ซึ่งแต่ละท้องถิ่นก็มีกระบวนการผลิตและวิธีสร้างสรรค์รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้ได้ชีสคุณภาพเยี่ยมที่เป็นส่วนหนึ่งของเมนูอาหารได้อย่างลงตัว
ใครกำลังตกหลุมรักความยืดเยิ้มและรสสัมผัสเค็มๆ มันๆ เช่นเดียวกับเรา อย่าลืมหยิบชีสรสชาติที่ใช่! มาเป็นวัตถุดิบทำอาหารสุดสร้างสรรค์กันได้เลย