ทำความรู้จัก ‘มูเตลู’ ศาสตร์แห่งความศรัทธา
พร้อมพิกัดทั่วเอเชีย
มีคนสงสัยแบบเราไหมคะ ว่า “มูเตลู” มันคืออะไรกัน? เหมือนนอนอยู่ดี ๆ ตื่นมาก็มีคำที่เราไม่รู้จักมักคุ้นว่อนอยู่เต็มอินเทอร์เน็ตอยู่ไปอยู่มาก็พอจะจับใจความได้ว่า มูเตลูน่าจะใช้แทนการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อ และความศรัทธาอีกรูปแบบหนึ่ง
ส่วนคำว่า “สายมู” ใช้เรียกแทนเหล่าคนที่มีความศรัทธา เราเลยชักคันไม้คันมืออยากจะรู้เสียแล้วว่ามูเตลูนี่มันมาจากไหน Helena จึงไปทำการขุดหาต้นตอของมูเตลูมาแบบถึงแก่น ไปทำความรู้จักมูเตลูพร้อม ๆ กับเราได้เลย!
มูเตลู ชื่อนี้มีที่มาจากหนัง
คำว่า “มูเตลู” นั้นมีที่มาจากภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่องหนึ่งที่ลงจอฉายมานานมากแล้ว ตั้งแต่ยังเป็นม้วนวิดีโออยู่เลยค่ะ โดยหนังมีชื่อไทยว่า “มูเตลู ศึกไสยศาสตร์” ตัวหนังเป็นเรื่องราวการต่อสู้ของหญิงสาว 2 คน ที่ใช้ไสยศาสตร์มนต์ดำมาประลองกันเพื่อแย่งชิงผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งในหนังก็มีซีนที่ร่ายคาถาว่า “มูเตลู มูเตลู” อีกด้วย
ความสงสัยที่ว่ามีการเริ่มใช้คำว่ามูเตลูในไทยตั้งแต่ตอนไหนนั้นยังไม่มีปรากฏแน่ชัด แต่ก็ใช่ว่าชาวเน็ตไทยจะใช้มูเตลูเรียกแทนความหมายด้านลบตามบริบทของหนัง ชาวไทยหยิบมูเตลูมาใช้เรียกขานศรัทธา ความเชื่อเรื่องโชครางของขลัง เสริมมงคล และเสริมดวงชะตาแทน
ปักหมุดตามไปมูเตลูกับ 10 พิกัดทั่วเอเชีย
กิจกรรมที่สายมูเตลูชาวไทยนิยมทำกันก็หลากหลายไม่จำเจ ทั้งการบูชาเครื่องรางต่าง ๆ จากวัดไทย และเทศ เช่น ตะกรุด หินนำโชค หรือด้ายแดง สาว ๆ ส่วนใหญ่จะเข้าสายมูเพราะเชื่อว่าของเหล่านี้จะช่วยเรื่องความรัก หน้าที่การงาน โชคลาภให้เฟื่องฟู ตลอดจนการไปมูเตลูถึงที่!
ในแถบเอเชียบ้านเรามีสถานที่ที่เหล่าสายมูชอบบินตามไปมูเตลูกันเยอะนับแทบไม่หวาดไม่ไหว Helena เลยรวบรวมแหล่งมูเตลูสุดศักดิ์สิทธิ์ทั่วเอเชียมาให้สาว ๆ จดลิสต์ไว้เผื่อบินไปมูเตลู
1. ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu)
พิกัด: โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เริ่มจากสถานที่สุดฮิตของสายมูเตลูในโตเกียว ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Jingu) เป็นศาลเจ้าชินโตที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่ดวงวิญญาณของสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ และสมเด็จจักรพรรดินีโชเก็ง พระพันปีหลวง มีลักษณะเด่นคือป่าที่ปลูกล้อมรอบวัดจนได้ชื่อว่าเป็นป่ากลางเมืองโตเกียว
ศาลเจ้าแห่งนี้แม้จะตั้งอยู่ใจกลางโตเกียวที่แค่เดินไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็จะเป็น Cat Street ถนนสุดชิคใจกลางฮาราจูกุ แต่พอก้าวเข้าเขตวัดก็เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกเลยทีเดียว ส่วนการขอพรนั้น ทางวัดจะให้เราเขียนแผ่นไม้ชิ้นเล็ก ๆ เพื่ออธิษฐาน (มีค่าใช้จ่ายนะ) เน้น ๆ ไปเลยว่าขอเรื่องความสำเร็จ ชาวมูเตลูคนไหนไม่อยากออกนอกเมืองให้เปลืองค่ารถไฟ ศาลเจ้าเมจิก็ตอบโจทย์อยู่นะ
2. หลวงพ่อโตไดบุทสึ คามาคุระ (Great Buddha of Kamakura)
พิกัด: คามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น
คามาคุระเป็นเมืองสายบุญเก่าแก่ของญี่ปุ่น มีหลวงพ่อโตไดบุทสึ คามาคุระ แห่งวัดโคโตคุอิน (Kotokuin Temple) เป็นไฮไลท์ที่ชาวมูเตลูห้ามพลาด มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือองค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่ในวัด รอให้สายมูเตลูได้เข้าไปขอพรกราบไหว้ นอกจากองค์พระที่เป็นจุดศูนย์รวมของสายมูแล้ว สวนที่ทางวัดจัดไว้อย่างสวยงามก็เป็นไฮไลท์ที่ห้ามพลาด หากสาว ๆ มาในช่วงต้นเดือนเมษายนจะได้ชมดอกซากุระบานอีกด้วย
3. วัดหวังต้าเซียน (Wong Tai Sin Temple)
พิกัด: ฮ่องกง
วัดหวังต้าเซียน หรือวัดหว่องไทซินเป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพุทธ และชาวมูเตลูชอบมาขอพรให้สมดังปรารถนา เรียกว่าแขกไปใครมาต้องแวะมาไหว้สักหน่อย ซึ่งที่นี่เค้าขึ้นชื่อการขอพรในเรื่องสุขภาพ โรคภัย และความรักอย่างมาก แต่อย่าพลาดเสี่ยงเซียมซีเชียว เค้าว่ากันว่าแม่นสุด ๆ ไปเลย
4. ศาลเจ้าคยองกีจอน (Gyeonggijeon)
พิกัด: จอนจู ประเทศเกาหลีใต้
ศาลเจ้าคยองกีจอนตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าหมู่บ้านฮันอก หมู่บ้านโบราณที่เค้าร่ำลือกันว่ากว่าจะเดินขึ้นไปบนเนินได้นี่เทียบเท่ากับเดินขึ้นเขาคิชกุฎเลยทีเดียว
ศาลเจ้าคยองกีจอนได้รับความนิยมทั้งกับชาวเกาหลีใต้ และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่วนใครอยากอธิษฐานขอพรมูเตลูในเรื่องที่ตั้งใจ ที่นี่เค้านิยมขอพรในเรื่องของสุขภาพ และการเรียนกันค่ะ ในวันอากาศดี ๆ วัยรุ่นเกาหลีนิยมใส่ชุดฮันบกร่วมสมัยมาเดินถ่ายรูปอีกด้วย เพราะสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าแห่งนี้จะพาเราย้อนกลับไปยังยุคสมัยโชซอนกันเลย
5. วัดเซียน จู่ กง (Xian Zu Gong Temple)
พิกัด: ประเทศสิงคโปร์
วัดเซียน จู่ กง เป็นวัดจีนลัทธิเต๋าที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก สร้างโดยชุมชนพ่อค้าชาวจีนฮกเกี้ยนเพื่อถวายแด่เทพเจ้าตั่วแป๊ะกง หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ วัดแห่งนี้จึงมีชื่อเสียงในเรื่องของมูเตลูด้านโชคลาภความเป็นสิริมงคล สาว ๆ ยังสามารถขอพรให้เทพเจ้าช่วยปกป้องให้แคล้วคลาดจากศัตรู และภัยอันตรายต่าง ๆ อีกด้วย
6. วัดเตียร์ตา อัมปึล (Tirta Empul Temple)
พิกัด: บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
วัดเตียร์ตา อัมปึล หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “วัดน้ำพุศักดิ์สิทธิ์” เป็นที่เคารพสักการะของชาวบาหลี ภายในวัดมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อายุมากกว่า 1,000 ปี ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังมีน้ำผุดขึ้นมาตลอดเวลา ชาวบาหลีจึงมีความเชื่อว่า หากใครที่ได้มาชำระล้างร่างกายในสระน้ำแห่งนี้ จะเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต ช่วยบำบัดรักษาโรคภัยต่าง ๆ ให้ร่างกายแข็งแรง และขับไล่สิ่งเลวร้ายไปได้ สายมูเตลูคนไหนอยากพักผ่อนบาหลีชิล ๆ ด้วย มูเตลูด้วย อย่าลืมจดวัดเตียร์ตา อัมปึลไว้ในลิสต์นะคะ
7. ศาลย่าเทพ (Ya Tep)
พิกัด: เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา
ศาลย่าเทพ มีรูปปั้นของ Ya Tep (หรือ Ya Deb) เป็นที่เคารพศรัทธาของสายมูเตลู แต่เดิมตั้งอยู่ในยุคก่อนนครวัด ในช่วงยุคเขมรแดงศาลย่าเทพแห่งนี้ถูกทำลายเป็นชิ้น ๆ ก่อนที่จะมีการบูรณะ และวางไว้ใต้ต้นโพธิ์ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ที่นี่เค้ามีทริคมูเตลูด้วยแหละ หากใครมากราบไหว้ขอพร และอยากให้สิ่งที่ตัวเองต้องการสมหวังดังใจ ให้กระซิบที่ข้างหู แล้วทำการบีบนวดที่เเขนเหมือนการที่เราเอาใจผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้าน ก็จะสมหวังได้เร็ววัน
8. เทพทันใจ เจดีย์ไจ๊เข้า (Kyaik Khauk Pagoda)
พิกัด: ย่างกุ้ง ประเทศพม่า
เรามั่นใจว่าสาว ๆ สายมูเตลูของ Helena ต้องเคยได้ยินชื่อของเทพทันใจมาก่อน เทพทันใจในเมืองย่างกุ้งนั้นก็มีอยู่หลายองค์ แต่ที่ชาวมูเตลูคอนเฟิร์มว่าศักดิ์สิทธิ์จริง ไปย่างกุ้งต้องแวะไปกราบขอพรคือเทพทันใจที่เจดีย์ไจ๊เข้า (Kyaik Khauk Pagoda) ซึ่งเป็นเทพทันใจที่ใหญ่ที่สุด เปรียบเหมือนหัวหน้าของเทพทันใจในเมืองย่างกุ้ง ว่ากันว่าขออะไรก็มักจะได้ตามที่ขอ โดยเฉพาะเรื่องการงาน และการเงิน บางคนถึงกับบินไปขอต้นปี พอกลางปีก็บินไปแก้บนกันเลยทีเดียว
9. พระธาตุพนม นครพนม
พิกัด: จังหวัดนครพนม ประเทศไทย
ประเทศไทยของเราก็มีสถานที่สุดขลังที่ขึ้นชื่อในหมู่สายมูเตลูอย่างมาก สถานที่นั้นคือพระธาตุพนมนั่นเองค่ะ พระธาตุพนมเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดนครพนม และยังเป็นพระธาตุประจำคนเกิดปีวอก แนะนำให้ขอพรในเรื่องความเมตตา บารมี ความรัก รวมถึงเรื่องโชคลาภ และการขอบุตรด้วย
10. หลวงพ่อพระพุทธเจ้าองค์ดำ
พิกัด: เมืองนาลันทา ประเทศอินเดีย
หลวงพ่อพระพุทธเจ้าองค์ดำ หรือ “หลวงพ่อองค์ดำ” พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองนาลันทาในกรุงราชคฤห์ ประเทศอินเดีย ดินแดนแห่งการมูเตลูหลากหลายแขนง พระพุทธเจ้าองค์ดำเป็นที่ศรัทธาของชาวอินเดียมาก ใครเจ็บป่วยจากโรคภัยไข้เจ็บให้มาขอพรกับหลวงพ่อองค์ดำแล้วจะหาย ลูกใครเจ็บป่วย ทางนั้นเค้าก็มีทริคมูเตลูคือการเอาน้ำมันเนยมาทาที่องค์ท่าน แล้วลูบเอาน้ำมันเนยนั้นกลับมาทาตัว จะทำให้เด็ก ๆ หายป่วยสนิท
มูเตลูเติบโตด้วยความเคารพศรัทธา ซึ่งก็เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล เลือกในทางที่ตัวเองเชื่อมั่น และให้ความเคารพด้วยใจ รับรองว่ามูเตลูไม่เคยทำร้ายใครถ้าเรามูอย่างมีลิมิต และมีสติ ไม่ว่าจะเป็นการมูสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาไว้กับตัว หรือเดินทางไปมูยังสถานที่ต่าง ๆ Helena ก็ขอเป็นกำลังใจให้สาว ๆ สายมูเตลูของเราประสบความสำเร็จในการขอพรทุกที่เลยนะคะ