คลีนซิ่งออยล์ ยี่ห้อไหนดี ล้างเมคอัพหมดจด ช่วยถนอมผิว
ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางออกมาให้เลือกสรรมากมาย ทั้งคลีนซิ่งวอเตอร์ คลีนซิ่งเจล คลีนซิ่งมิลค์ คลีนซิ่งบาล์ม คลีนซิ่งแบบแผ่น ฯลฯ แต่วันนี้ Helena จะพามารู้จัก “คลีนซิ่งออยล์” ไอเทมช่วยล้างเครื่องสำอางบนใบหน้าให้หมดจด โดยไม่ทำให้ผิวหน้าพัง ซึ่งยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนปัง ตามมาดูกันเลย
พารู้จัก คลีนซิ่ง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า
“คลีนซิ่ง” เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีหลายรูปแบบให้เลือกสรรตามลักษณะผิวของแต่ละคน เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบแต่งหน้า และผู้ที่ไม่แต่งหน้า เพราะเวลาออกไปข้างนอก เจอมลภาวะ สิ่งสกปรกมากมาย จึงต้องมีคลีนซิ่งมาช่วยทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด แบ่งออกเป็น 8 ประเภท ดังนี้
คลีนซิ่งวอเตอร์ (Cleansing Water) เป็นคลีนซิ่งแบบน้ำ ต้องใช้สำลีในการเช็ด สามารถขจัดคราบเมคอัพได้ดี ใครที่ผิวแพ้ง่ายต้องเลือกยี่ห้อที่อ่อนโยน
คลีนซิ่งออยล์ (Cleansing Oil) คลีนซิ่งที่มีส่วนประกอบของน้ำมัน ทำความสะอาดผิวหน้าง่ายโดยถูคลีนซิ่งบนใบหน้าเบา ๆ ช่วยให้หน้าสะอาดและชุ่มชื้นไม่แห้งตึง
คลีนซิ่งเจล (Cleansing Gel) คลีนซิ่งเนื้อเจล มีความอ่อนโยน ใช้งานสะดวก ล้างคราบเมคอัพ พร้อมรักษาความชุ่มชื้นเอาไว้
คลีนซิ่งมิลค์ (Cleansing Milk) คลีนซิ่งสีขาวคล้ายน้ำนม มาในรูปแบบโลชั่นบางเบา ขจัดเมคอัพโดยไม่ทำให้ผิวตึง
คลีนซิ่งบาล์ม (Cleansing Balm) ลักษณะเป็นเนื้อบาล์มแข็ง เมื่อสัมผัสผิวจะละลายเปลี่ยนเป็นน้ำมันหรือน้ำนม ขจัดสิ่งสกปรกและเมคอัพได้ดี โดยไม่ทำให้ผิวสูญเสียน้ำมันบนใบหน้า
คลีนซิ่งครีม (Cleansing Cream) มีลักษณะเป็นเนื้อครีม มักมีส่วนผสมของ Beeswax และ Mineral Oil ทำให้หลังใช้งานผิวชุ่มชื้น
คลีนซิ่งแบบแผ่น (Cleansing Wipe) คลีนซิ่งรูปแบบแผ่น สามารถหยิบใช้งานได้ทันที จะทำความสะอาดหน้าตอนไหนก็สะดวก
คลีนซิ่งแบบโฟม (Cleansing Foam) ส่วนใหญ่มีเนื้อเนียนนุ่มแบบโฟมล้างหน้า ทำความสะอาดได้ทุกซอกทุกมุมและทุกสภาพผิว
รู้ประเภทคลีนซิ่งทั้งหมดแล้ว คราวนี้มารู้จักคลีนซิ่งออยล์กันให้มากขึ้นกันดีกว่า เพราะเป็นหนึ่งคลีนซิ่งยอดฮิตในปัจจุบัน ทั้งผู้หญิงและผู้ชายสามารถใช้ทำความสะอาดผิวหน้าได้
คลีนซิ่งออยล์ (Cleansing Oil) คืออะไร
ถ้าให้พูดถึงไอเทมที่ช่วยทำความสะอาดผิวหน้า “คลีนซิ่งออยล์” ก็เป็นหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ใครหลาย ๆ คน เพราะช่วยขจัดคราบเมคอัพฝังลึก ครีมกันแดด หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ดี เนื่องจากมีส่วนประกอบของน้ำมันผสมอยู่ ทำให้ดูดซับสิ่งสกปรกต่าง ๆ มารวมกับน้ำมันได้ดี โดยไม่ต้องพึ่งสำลี เพียงแค่นวดคลีนซิ่งออยล์เบา ๆ บนใบหน้า แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดผิวหน้าก็สะอาด ใสปิ๊งแล้ว ที่สำคัญการใช้คลีนซิ่งออยล์ยังทำให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง เลี่ยงการเกิดริ้วรอยได้
คลีนซิ่งออยล์ เหมาะกับผิวแบบไหน ?
สำหรับคำถามที่ว่าเหมาะกับผิวประเภทใดก็ตอบได้เลยว่า คลีนซิ่งออยล์เหมาะทุกสภาพผิว เพราะในปัจจุบันมีหลายสูตรให้เลือก สำหรับคนที่มีผิวแห้ง เพราะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้ดี โดยไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ส่วนผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสมก็สามารถใช้คลีนซิ่งออยล์ได้เช่นเดียวกัน แต่ต้องทำความสะอาดโดยใช้โฟมล้างหน้าอีกรอบ เพื่อขจัดความมันบนใบหน้าออก ไม่ให้น้ำมันไปอุดตันรูขุมขุน ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว
ใช้คลีนซิ่งออยล์แล้วดียังไง
1. ช่วยล้างเครื่องสำอางกันน้ำ สิ่งสกปรกได้หมดจด
คลีนซิ่งออยล์ช่วยให้การล้างเครื่องสำอางกันน้ำเป็นเรื่องง่าย สามารถขจัดซิลิโคนและน้ำมันที่เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางกันน้ำได้อย่างหมดจดและล้ำลึก เพราะออยล์จะดักจับ ดูดสิ่งสกปรกที่เกาะบนผิวหน้า และละลายเมคอัพ ให้หลุดออกมาเพียงแค่ถูใบหน้าเบา ๆ ใครที่แต่งหน้าแน่น ชอบใช้เครื่องสำอางกันน้ำ คลีนซิ่งประเภทนี้ตอบโจทย์
2. ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง
เพราะในคลีนซิ่งออยล์มีส่วนผสมของน้ำมันจากธรรมชาติ ไม่ทำลายสมดุลค่า pH ตามธรรมชาติของผิว อ่อนโยนต่อผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย เมื่อใช้แล้วไม่ทำให้หน้าแห้งตึง แต่กลับรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ให้ผิวหน้าเด้งนุ่ม สุขภาพดี
3. ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน
คลีนซิ่งออยล์ สามารถใช้นวดทั่วใบหน้าเพื่อทำความสะอาดได้เลยโดยไม่ต้องใช้สำลี หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ทำให้ลดการเสียดสีบนผิวหน้า ลดการระคายเคืองผิวได้ดี
ผิวแบบนี้ เลือกคลีนซิ่งออยล์แบบไหน ?
เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มาเลือกคลีนซิ่งที่เหมาะกับผิวกันเถอะ
ผิวแห้ง
ควรเลือกคลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของ Argan Oil หรือ Camellia Seed Oil ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
ผิวแพ้ง่าย
เพราะผิวมีความบอบบาง แพ้ง่าย จึงเหมาะกับคลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติ ปราศจากแอลกอฮอล์ พาราเบน และน้ำหอม หรือส่วนผสมอื่น ๆ ที่เสี่ยงต่อการระคายเคือง
ผิวมัน หรือผิวเป็นสิว
ควรใช้คลีนซิ่งออยล์ที่มีส่วนผสมของ Tea Tree Oil หรือน้ำมันสะระแหน่ ปราศจากแอลกอฮอล์ พาราเบน และน้ำหอม เพื่อช่วยลดความมัน และการอุดตัน แต่ถ้าใครที่เป็นสิว แนะนำให้เลือกคลีนซิ่งที่มีส่วนผสมจากน้ำมันธรรมชาติ ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ใบหน้า
คลีนซิ่งออยล์ ยี่ห้อไหนดี? เคลียร์สิ่งสกปรก ล้างเมคอัพได้เกลี้ยง!
สำหรับใครเป็นมือใหม่ อยากเปลี่ยนมาใช้คลีนซิ่งออยล์ แต่ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหนดี? วันนี้ Helena คัดมาให้แล้ว 5 แบรนด์ ไปดูกันเลย
THREE Balancing Cleansing Oil N
คลีนซิ่งตัวดังจากแบรนด์ THREE การันตีด้วยรางวัลมากมาย เป็นสูตรอ่อนโยน มีส่วนผสมจากธรรมชาติ 93% เช่น สารสกัดจากหญ้าฝั่น รากโกโบ เมล็ดชาเชียว และน้ำมันผิวส้ม เนื้อสัมผัสคลีนซิ่งตัวนี้จะเบาบาง ล้างออกง่าย ไม่เหลือคราบมันบนใบหน้า ช่วยทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก และมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิว มาพร้อมกับกลิ่นหอมของน้ำมันเอสเซนเชียลออยล์ ขณะใช้จะได้กลิ่นหอม ๆ ช่วยให้ผ่อนคลายได้ดี รวมถึงใช้แล้วไม่ทำให้ระคายเคือง เหมาะกับทุกสภาพผิวเลย
ราคา 2,000 บาท (ขนาด 185 มล.)
SULWHASOO Gentle Cleansing Oil
อีกหนึ่งคลีนซิ่งออยล์แบรนด์ดังที่ช่วยทำความสะอาดลึกถึงรูขุมขน โดยไม่ทิ้งสิ่งตกค้างบนผิว แถมยังมอบความสดชื่นให้ผิว ด้วยยอนซัม น้ำมันสมุนไพรของเกาหลี และสารสกัดเมล็ดสนเกาหลี น้ำมันเมล็ดคาเมเลีย สารสกัดจากเมล็ดพลัม น้ำมันเมล็ดงา และน้ำมันแอพพริคอท อ่อนโยนต่อผิว ช่วยให้ผิวแน่น รูขุมขุนกระชับ ผิวสะอาด เหมาะแก่การทำความสะอาดผิวหน้าในทุก ๆ วัน
ราคา 1,500 บาท (ขนาด 200 มล.)
ANUA HEARTLEAF PORE CONTROL CLEANSING OIL
ถัดมาเป็นคลีนซิ่งออยล์จากแบรนด์เกาหลี ที่มีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติ ทั้ง Grape Seed Oil, Jojoba Seed Oil, Macadamia Seed Oil, Sunflower Seed Oil และ Olive Oil ช่วยทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก เมคอัพเกลี้ยง รวมถึงยังช่วยกำจัดสิวเสี้ยนและสิวหัวขาวได้ ผู้ที่มีผิวมัน ผิวผสม หรือผิวเป็นสิวใช้คลีนซิ่งออยล์ ANUA ได้สบาย เพราะผ่านการทดสอบ non-comedogenic ไม่อุดตันรูขุมขน หลังล้างหน้าเผยผิวที่ชุ่มชื้น ไม่แห้งตึง รู้แบบนี้แล้วอย่าลืมไปซื้อตามกันนะ เพราะมีบางช่วงหาซื้อยากมาก
ราคา 790 บาท (ขนาด 200 มล.)
NEEDLY MILD DEEP CLEANSING OIL
ผิวหน้าสะอาดด้วยคลีนซิ่งออยล์ NEEDLY MILD DEEP CLEANSING OIL จะแต่งหน้าเบา หรือแต่งหน้าจัด คลีนซิ่งของ Needly เอาอยู่ ทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างอ่อนโยน พร้อมละลายความมันและสิวหัวดำได้อย่างล้ำลึก ด้วยส่วนผสมของน้ำมันจากต้นคามิเลีย น้ำมันเมล็ดชาเขียว น้ำมันอาร์แกน น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน น้ำมันโจโจ้บา และน้ำมันรำข้าว ปราศจากน้ำหอมและสี เนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ใช้แล้วมอบความชุ่มชื้น ลดแรงตึงที่ผิว ควบคุมความมัน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวเลย
ราคา 850 บาท (ขนาด 240 มล.)
SOFTYMO Cleansing Oil
คลีนซิ่งออยล์ยี่ห้อไหนดี แบรนด์สุดท้ายจะเป็นคลีนซิ่งราคาสบายกระเป๋าตัวดังจากญี่ปุ่น SOFTYMO ที่มีสารคงความชุ่มชื้นจากโบทานิคอลออยล์ออแกนิค 5 ชนิด, โบทานิคอลซีดออยล์ 3 ชนิด และสควาเลน ปราศจากแอลกอฮอล์ พาราเบน กลิ่นและสีสังเคราะห์ สามารถล้างเมคอัพกันน้ำ สิ่งสกปรกอุดตันในรูขุมขุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เวลาใช้งานจะแตกตัวเป็นน้ำนม เหมาะกับผิวแพ้ง่าย คนที่ต่อขนตาก็สามารถใช้คลีนซิ่งออยล์แบรนด์นี้ได้เช่นเดียวกัน เรียกว่าเป็นแบรนด์ที่ถูกและดี!
ราคา 349 บาท (ขนาด 240 มล.)
เป็นอย่างไรกันบ้างกับคลีนซิ่งออยล์ที่ Helena มาแนะนำกัน เรียกว่าเป็นไอเทมที่ควรลองใช้คลีนเมคอัพ ทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนใบหน้าสุด ๆ ลองแล้วจะติดใจ เพราะไม่ต้องใช้สำลี ใบหน้าก็สะอาดหมดจด เนียนนุ่ม แบบยังคงความชุ่มชื้น
https://shopee.co.th/blog/best-cleansing-oil-brand/
https://www.cosmenet.in.th/cosme-intrend/41264
https://www.bioderma.co.th/your-skin/clean-your-skin/get-to-know-cleansing-oil
https://www.jeban.com/topic/342680
https://thebeautrium.com/blog/2020-04-how-to-choose-cleansing
https://smooth-e.com/blog/five-advantages-of-using-cleansing-oil-in-washing-cosmetics/