รวม 7 ครีมลดรอยสิวตัวเด็ด
ปราบรอยสิวแบบไม่ง้อคอนซีลเลอร์
ความหนักใจหลังสิวหายก็คือการทิ้งอารยธรรมอย่างรอยสิวไว้บนหน้าสวย ๆ โดยเฉพาะสิวอักเสบตัวดี ที่ขยันทิ้งร่องรอยความช้ำไว้บนผิวหน้า ต้องคอยหาคอนซีลเลอร์มาปิด จะให้หาครีมลดรอยสิว ก็ต้องอดทนทดลองจนได้ครีมลดรอยสิวตัวที่ถูกกับผิวอีก Helena เข้าใจปัญหานี้ดี! เราเลยคัด 7 ครีมลดรอยสิวตัวเด็ดในราคาย่อมเยาไปจนถึงเคาเตอร์แบรนด์มาให้สาว ๆ ได้พิจารณาความคุ้มค่ากันถึงที่ ไปดูกันเลย!
เช็กให้ชัวร์! ส่วนผสมที่ต้องมีในครีมลดรอยสิว
ก่อนจะพุ่งตัวไปซื้อครีมลดรอยสิวมาลอง เราขอชวนสาว ๆ มาเช็กส่วนผสมที่ต้องมีในครีมลดรอยสิวกัน ซึ่งอาจมี Active Ingredient (ตัวยาที่ออกฤทธิ์) หนึ่งหรือสองตัวก็ได้ คุณสมบัติหลัก ๆ ของสารเหล่านี้ในครีมลดรอยสิวจะทำหน้าที่ในการช่วยผลัดเซลล์ผิวและยับยั้งการสร้างเม็ดสีบนแผลที่ไวต่อแสงแดดนั่นเอง
Niacinamide (วิตามิน บี 3) ตัวยาสามัญของครีมลดรอยสิว มีคุณสมบัติลดอาการแดงและอาการระคายเคืองบนผิว ไปจนถึงช่วยกระตุ้นการผลิตเซราไมด์ (Ceramide) สารที่ทำให้ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียนและแข็งแรงเร็วขึ้น
AHAs หรือกรดผลไม้ ช่วยผลัดเซลล์ผิวออก ทำให้รอยดำ และรอยแดงจางลงเร็วขึ้น อีกทั้งช่วยสร้างคอลลาเจนให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่นด้วย
Kojic Acid หรือกรดโคจิก ส่วนผสมที่มาแรงในปี 2020 โคจิกคือข้าวหมักแบบญี่ปุ่น มีคุณสมบัติคือการเข้าไปยับยั้งการผลิตเม็ดสี ทำให้ผิวดูสีสม่ำเสมอ
Retinol (วิตามินเอ) นอกจากสารตัวนี้จะช่วยลดการเกิดสิวอักเสบ และสิวอุดตัน มันยังช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิว ปรับผิวให้เรียบ ขอกระซิบเคล็ดลับเพิ่มอีกนิด! หากสาว ๆ ใช้ครีมที่มีส่วนประกอบของ Retinol เป็นเวลา 6 เดือนขึ้นไป ยังสามารถหวังผลในด้าน Anti-Aging ได้อีกด้วย เพราะเค้าจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวค่ะ
1. BK Acne Expert Bright
ขนาด 4 / 35 กรัม
ราคา: 49 / 389 บาท
BK Acne เป็นแบรนด์ที่ออกโปรดักต์ที่เกี่ยวกับเรื่องสิว ๆ ซึ่งยาแต้มสิวหรือมาส์กลดสิวของเค้าก็ถือว่าเป็นตัวเด่นเลยแหละ แต่ที่มาแรงแซงโค้งเลยก็ต้องเป็นครีมลดรอยสิว BK Acne Expert Bright ที่จะเข้ามาดูแลปัญหารอยดำ รอยแดงจากสิวแบบตรงจุด โดยมาทำให้อุดตันเพิ่ม!
ครีมลดรอยสิวตัวนี้มีส่วนผสมจากไวท์เทนนิ่งเข้มข้น อย่าง Symwhite, Vit c, Madecassoside, WILD Thymus Extrac และ Salicylic Acid ที่ทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารไวท์เทนนิ่ง และลดโอกาสเกิดสิวซ้ำในตัว สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิว ไม่มีส่วนผสมของพาราเบนแอลกอฮอล์ และนํ้าหอม ใครผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้แบบต้องกังวล
2. Smooth E Scar Serum
ขนาด 7 กรัม
ราคา: 150 บาท
Smooth E เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอ่อนโยนต่อผิวมาโดยตลอด พอเค้าออกครีมลดรอยสิว Smooth E Scar Serum เนื้อเซรั่มออกมา เราก็ไม่พลาดที่จะหยิบมารีวิวให้สาว ๆ ได้อ่านกัน
ครีมลดรอยสิวตัวนี้ โดดเด่นในเรื่องลดรอยดำรอยแดงต่าง ๆ ทั้งยังปลอดภัยกับสาว ๆ ที่มีผิวบอบบาง หรือแพ้ง่ายอีกด้วย ยังไม่พอ! หลังจากที่ใช้ Smooth E Scar Serum ในระยะเวลาหนึ่งจนรอยสิวหายไป ครีมลดรอยสิวตัวนี้จะค่อย ๆ ฟื้นฟูผิวบริเวณนั้นให้เรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ และมอบผิวแข็งแรงให้ด้วย
3. Puricas Dragon’s Blood Scar Gel
ขนาด 8 กรัม
ราคา: 200 บาท
Puricas Dragon’s Blood Scar Gel เรียกได้ว่าเป็นครีมลดรอยสิวที่มีสรรพคุณเอาใจสาวสิวเยอะโดยเฉพาะ สาว ๆ คนไหนสิวอักเสบยังเยอะอยู่ก็สามารถใช้ครีมลดรอยสิวตัวนี้ได้แบบไม่กังวล เพราะเค้าไม่รบกวนสิวเดิมที่ยังอักเสบ และไม่ก่อให้เกิดสิวใหม่ มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ ปลอบประโลมผิวบริเวณรอยสิวที่มักจะแห้ง ไม่ต้องกลัวเรื่องแต้มไปแล้วผิวจะแห้งเป็นขุย แถมครีมลดรอยสิวเนื้อเจลตัวนี้จะไปกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนให้ผิวเรียบเนียน เรียกได้ว่า นอกจากรอยสิวจะหายเร็วทันใจ ผิวยังไม่เป็นหลุมเป็นบ่อจากการกดสิวด้วย
4. The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1%
ขนาด 30 มิลลิลิตร
ราคา: 359 บาท
The Ordinary แบรนด์สกินแคร์จากอเมริกาที่โด่งดังเรื่องการใส่ Active Ingredient (สารออกฤทธิ์) เพียว ๆ ซึ่งจะช่วยบูสต์พลังสกินแคร์เหล่านั้นในการดูแลปัญหาผิวของเราได้อย่างตรงจุด และสกินแคร์ตัวดังของเค้าก็คือ The Ordinary Niacinamide 10% + Zinc 1% ครีมลดรอยสิวเนื้อน้ำ ไม่เหนียวเหนอะหนะ เห็นใส ๆ แบบนี้แต่ The Ordinary ใส่ Niacinamide มาในขวดถึง 10% Niacinamide เป็นสารออกฤทธิ์ที่ช่วยให้รอยแดง รอยดำจากสิวจางลงอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งช่วยลดปริมาณสิว และคุมความมัน แถมยังใส่ Zinc 1% เพิ่มพลังการกำจัดสิวใหม่ได้อย่างอ่อนโยน
5. Eucerin Pro Acne Solution Day Mat Whitening SPF30
ขนาด 50 กรัม
ราคา: 1,100 บาท
Eucerin เป็นแบรนด์ที่คุ้นเคยกันดีว่ายืนหนึ่งเรื่องป้องกันสิว และเหมาะกับผิวแพ้ง่าย ครีมลดรอยสิว Eucerin Pro Acne Solution Day Mat Whitening SPF30 โดดเด่นในเรื่องของการลดรอยดำ รอยแดงที่มาจากสิว สาว ๆ ทราบใช่ไหมเอ่ย? รอยสิวนั้นไวต่อแสงมาก ครีมลดรอยสิวตัวนี้เลยใส่ SPF 30 ที่ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากแสงแดดให้ด้วย ซึ่งจะทำให้รอยดำที่มีอยู่ไม่เป็นสีเข้มขึ้น เป็นครีมลดรอยสิวสรรพคุณเข้มข้นที่ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่ม และยังปราศจากน้ำหอม พาราเบนด้วยนะ
6. Mederma Intense Gel
ขนาด 20 มิลลิลิตร
ราคา: 419 บาท
Mederma โด่งดังในวงการแพทย์ผิวหนัง เรียกได้ว่าเป็นครีมลดรอยสิวแบบเวชภัณฑ์ที่ตรงเข้าดูแลรอยดำรอยแดงจากสิวถึงชั้นหนังแท้ ประกอบด้วยตัวยาสำคัญสองชนิด คือ สารสกัดจากหัวหอมที่ชื่อว่า Cepalin และสาร Allantoin ช่วยยับยั้งขบวนการอักเสบของสิว ลดการสร้างเนื้อเยื่อในชั้นหนังแท้ ทำให้แผลอ่อนนุ่ม และช่วยในการสร้างเซลล์ Fibroblast เซลล์ผิวที่คอยผลิตคอลลาเจน และอิลาสติน ซึ่งสูญเสียไปตามธรรมชาติ รักษารอยดำรอยแดงได้แบบพริบตาในราคาที่ใครก็จับต้องได้
7. KIEHL’S Clearly Corrective Dark Spot Solution
ขนาด 30 มิลลิลิตร
ราคา: 2,700 บาท
KIEHL’S เป็บแบรนด์ที่มาแรงในเรื่องของการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเข้ารักษาปัญหาผิวได้แบบคลีน ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมี และโปรดักต์ตัวดังที่ใครก็ให้การยอมรับของเค้าก็คือ KIEHL’S Clearly Corrective Dark Spot Solution ครีมลดรอยสิวเนื้อเซรั่ม ที่ช่วยลดจุดด่างดำ ลดรอยสิว ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอได้อย่างฉับไว ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดจุดด่างดำใหม่ ๆ และป้องกันการเปลี่ยนสีของเม็ดสีผิวเมื่อใช้เป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง แบรนด์เคลมแรงว่า จุดด่างดำจะลดลงโดยเห็นผลภายใน 2 สัปดาห์!!!
ครีมลดรอยสิวตัวนี้ยังปราศจากซิลิโคน สารกันเสีย น้ำหอม ไม่ใส่สี และปราศจากเทคโนโลยีกระจายแสง ไม่ทำให้ผิวไวต่อแสง แต่ถึงอย่างไร สาว ๆ ก็ควรใช้ครีมกันแดด 2 ข้อนิ้วในทุกเช้านะคะ
การใช้ครีมลดรอยสิวเป็นวิธีแก้ไขที่ปลายเหตุ นั่นหมายถึงเราต้องการลดรอยสิวที่บอบช้ำจากการบีบ แกะ หรือกดมาอย่างโชกโชน Helena เลยอยากชวนสาว ๆ ให้ลองเพิ่มความอดทนด้วยการงดแกะสิว บีบสิว และใช้ยาแต้มสิวอย่างสม่ำเสมอ ให้เวลาเค้าในการค่อย ๆ ยุบตัวลงไปเอง รวมไปถึงการดูแลผิวจากภายใน เบา ๆ ของทอด หรือการกินหวานมันเค็มจนเกินไป เพราะสิ่งเหล่านี้จะกระตุ้นการเกิดสิวได้ง่าย ที่สำคัญสุด ๆ ไม่ลืมที่จะทากันแดด 2 ข้อนิ้วในทุกเช้า! เพราะยาแต้มสิว หรือครีมลดรอยสิวหลาย ๆ ตัวนั้นทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้นนั่นเองค่ะ