ทาครีมกันแดด

ทาครีมกันแดดให้ถูกประเภท และถูกวิธี
 รับประกันผิวดีไม่แก่ก่อนวัย

เดี๋ยวนี้ใคร ๆ ก็หันมาให้ความสำคัญกับการทาครีมกันแดดมากขึ้น เพราะเจ้ารังสี UV เนี่ย ตัวการทำร้ายผิวหลัก ๆ ของเราเลย แล้ววันนี้สาว ๆ ชาว Helena ทาครีมกันแดดถูกวิธีกันหรือยังนะ? ครีมกันแดด อาวุธพิชิตรังสี UV ประจำโต๊ะเครื่องแป้งของเรา ถ้าทาไม่ถูกวิธี ก็ไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะกันแดดให้เราได้ตามคำเคลมของแบรนด์นะคะ เพราะฉะนั้น มาทาครีมกันแดดให้ถูกวิธี เพื่อผิวดี ไม่แก่ก่อนวัยที่อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมกันเถอะ!

ทาครีมกันแดด

ก่อนทาครีมกันแดด มารู้จักประเภทของครีมกันแดดกัน

ครีมกันแดดเนี่ย ใช่ว่าใครจะหยิบมาทาก็ได้เลยนะ เพราะเค้าไม่ได้มีแค่ประเภทเดียว แถมเจ้าครีมกันแดดก็จัดว่าเป็นสกินแคร์ที่มีราคาค่อนข้างสูง จะทาครีมกันแดดทั้งที เราก็ควรทำความเข้าใจก่อน ว่าครีมกันแดดมีกี่ประเภท และผิวของเราเหมาะกับครีมกันแดดประเภทไหน บอกกันตรงนี้เลยว่าเราสามารถแบ่งครีมกันแดดได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ แบบ Physical และ Chemical ทั้งสองแบบมีลักษณะของเนื้อครีม และมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน มาดูกันเลย

ทาครีมกันแดด

ครีมกันแดดแบบ Physical

ครีมกันแดดชนิดนี้มีส่วนผสมหลักเป็นแร่ธาตุ ช่วยป้องกันรังสี UV จากแสงแดดด้วยวิธีการสะท้อนกลับ นึกภาพว่า เมื่อเราทาครีมกันแดดแบบ Physical เนื้อครีมกันแดดจะเคลือบอยู่บนผิวหนัง และทำหน้าที่สะท้อนรังสี UV ออกจากผิวหนัง การทาครีมกันแดดแบบ Physical จะเหมาะกับสาว ๆ ที่ผิวค่อนข้าง Sensitive แพ้ง่าย หรือเป็นสิวง่าย แต่ข้อเสียของครีมกันแดดประเภทนี้คือเนื้อครีมจะไม่ละเอียดมากนัก เนื้อค่อนข้างหนัก และเกลี่ยยาก ทำให้เมื่อนำมาทาบนผิวแล้วจะทำให้ดูวอกหรือดูขาวมากจนเกินไป และยังล้างออกยากด้วย สาว ๆ ที่ทาครีมกันแดดแบบ Physical อย่าลืมใส่ใจขั้นตอนการล้างเมคอัพดี ๆ เชียว เดี๋ยวสิวอุดตันจะตามมา!

*วิธีสังเกตครีมกันแดดแบบ Physical สามารถดูส่วนผสมที่หลังกล่อง ซึ่งจะมีสารประกอบอยู่ 2 ชนิด คือ
Zinc Oxide ทำหน้าที่ป้องกันรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVB และ UVA ได้ทั้งหมด
Titanium Dioxide สารตัวนี้จะป้องกันรังสี UVB ได้ รวมถึง UVA บางส่วน (UVA-I)

ข้อดี

  • ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB
  • สามารถทาแล้วออกไปข้างนอกได้เลย ไม่ต้องรอ
  • เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
  • เก็บได้นานกว่า

ข้อเสีย

  • ต้องทาซ้ำบ่อยเมื่อออกแดด เพราะหลุดลอกได้ง่าย
  • สาวผิวแทนอาจต้องระวังหน่อย เพราะเนื้อครีมค่อนข้างขาว และเกลี่ยยาก
  • จำเป็นต้องใช้ในปริมาณมาก และมีโอกาสที่บางจุดอาจไม่ได้รับการปกป้องหากทาไม่ทั่วถึง ทำให้รังสียูวีสามารถทะลุผ่านช่องว่างระหว่างโมเลกุลของครีมกันแดดมาได้
ทาครีมกันแดด

ครีมกันแดดแบบ Chemical

ครีมกันแดดแบบ Chemical2-3 ชั่วโมง แต่การทาครีมกันแดดแบบ Chemical ที่มีส่วนประกอบเป็นสารเคมีหลายตัว อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ง่ายขึ้นด้วย โดยเฉพาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ครีมกันแดดแบบ Chemical จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่ผิวแข็งแรง ไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจเรื่องผิวหน้ามากกว่า

*สาว ๆ สามารถเลือกซื้อครีมกันแดดแบบ Chemical จากการดูส่วนประกอบของสารเคมีเหล่านี้ Panimate O, Bensophenone, Cinnamates, Antranilate, Homosalate

ข้อดี

  • เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย
  • ไม่มีความเสี่ยงจากการที่รังสี UV สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้เหมือนครีมกันแดดแบบ Physical
  • ราคาไม่สูงเท่าครีมกันแดดแบบ Physical

ข้อเสีย

  • ต้องรออย่างน้อย 20 นาทีเพื่อให้สารเคมีในครีมกันแดดเซ็ตตัว และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ครีมกันแดดแบบ Chemical อาจระคายเคืองง่ายกว่า Physical เนื่องจากมีสารเคมีจำนวนมากกว่า สาว ๆ ที่มีผิวแพ้ง่ายจึงต้องระวังให้ดี
  • ยิ่งค่า SPF บนกล่องสูง ยิ่งระคายเคืองง่าย
  • ด้วยส่วนประกอบที่เป็นสารเคมีหลายตัว จึงมีโอกาสอุดตันรูขุมขนมากกว่า ไม่เหมาะกับคนผิวมัน และผิวแพ้ง่าย
ทาครีมกันแดด

ทาครีมกันแดดถูกวิธี ผิวดีระยะยาว

เลือกชนิดครีมกันแดดที่ถูกกับผิวได้แล้ว การทาครีมกันแดดอย่างถูกวิธีก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญแบบดับเบิ้ล! เพราะถ้าเราทาครีมกันแดดแบบผิด ๆ ครีมกันแดดของเรา Hi-end แค่ไหนก็กันแดดได้ไม่มีประสิทธิภาพตามที่แบรนด์เคลมแน่นอน
1. ใครทาครีมกันแดดเป็นจุด ๆ แบบครีมทาหน้าต้องโดนตีมือหนึ่งที! ปริมาณการทาครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็คือ

  • ครีมกันแดดเนื้อครีม 2 ข้อนิ้วชี้พูน ๆ
  • ครีมกันแดดเนื้อน้ำ เหรียญ 10 บาท 1 เหรียญ

ปริมาณเท่านี้สามารถทาครีมกันแดดให้ทั่วทั้งหน้า และลำคอได้เลยค่ะ! แรก ๆ อาจจะไม่ชินมือ หรือกลัวซึมช้า ให้แบ่งทาครีมกันแดด 2 ครั้งได้ ขอร้องกันตรงนี้เลยว่า อย่างกกับการทาครีมกันแดด

2. เกลี่ย และทาครีมกันแดดไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ถูขึ้นถูลง

3. สาว ๆ สามารถทาแป้งหลังจากทาครีมกันแดดได้ค่ะ เพราะแป้งจะเป็นตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกันแดดให้ดียิ่งขึ้น เซ็ตให้ผิวผ่องแมท ไม่มันเยิ้ม

4. อย่าลืมทาครีมกันแดดที่ใบหูด้วย! เพราะใบหูเป็นส่วนที่ถูกลืมมาโดยตลอด และไหม้แดดได้

5. ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ตั้งแต่ SPF 30 ขึ้นไป และใช้ครีมกันแดดที่มี SPF ต่ำกว่าในกรณีที่โดนแสงแดดเป็นครั้งคราวระหว่างวัน หรือทำงานที่บ้านยาว ๆ

เห็นมั้ยคะว่าการทาครีมกันแดดให้ถูกวิธีไม่ยากเลย ทาบ่อย ๆ อีกหน่อยก็ชิน ถ้าใครยังไม่เริ่มทาครีมกันแดด วันนี้เริ่มทาเลยก็ยังไม่สาย มาทาครีมกันแดดกันเถอะนะ! ผิวสวย ๆ ของสาว ๆ จะได้อยู่กับเราไปอีกนาน ๆ เลย

SHARE

RELATED POSTS

แชร์ทริกสำหรับมือใหม่! ใช้เรตินอลยังไงให้ได้ผลดีที่สุด ถ้าจะให้พูดถึงสกินแคร์ที่กำลังฮิตบนโลกออนไลน์ในช่วงนี้ก็คงหนีไม่พ้น ‘เรตินอล’…