คุณมีเวลาว่าง 2-3 นาทีไหม? จะชวนไป WWOOF Japan!!
น้อง ๆ วัยมหาวิทยาลัย หรือสาว ๆ วัยทำงานคนไหนกำลังมี Gap Year หรือช่วงเวลาว่างเปล่ากันบ้างไหมคะ? บางคนเลือกที่จะไป Work & Travel หลังเรียนจบ บ้างก็ต่อโท หรือเทคคอร์สสร้างทักษะต่าง ๆ
แต่ถ้าใครยังไม่รู้จะทำอะไร แต่ก็ไม่อยากปล่อยให้เวลาผ่านไปเฉย ๆ มีเวลาสัก 2-3 นาทีมั้ยคะ?
Helena จะชวนไปลุย ‘WWOOF Japan’ กิจกรรมสุดพิลึกที่ได้ทั้งประสบการณ์ และสร้าง Gap Year ของเราให้มีคุณค่าขึ้นมาอีกเยอะเลย
WWOOF คืออะไร?
WWOOF (วูฟ) ย่อมาจาก World Wide Opportunities on Organic Farms นิยามสั้น ๆ ของ WWOOF คือการไปทำงานที่ฟาร์ม คาเฟ่ หรือร้านอาหาร (ที่ออร์แกนิค) แลกกับที่อยู่ ข้าว และการที่เราจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตคนท้องถิ่นนั้น ๆ แบบ Inside! โดยคนที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้จะเรียกว่า WWOOFers (วูฟเฟอร์) นั่นเองค่ะ WWOOF คือตัวกลางที่จะเชื่อมนักท่องเที่ยวกับชุมชนท้องถิ่นเข้าด้วยกัน พวกเขาได้ลูกมือช่วยงานฟรี ๆ เราชาววูฟเฟอร์เองก็ได้สนุกสนานกับการทำฟาร์ม ทำสวนแบบออร์แกนิค ได้พักปอด (ถ้าเลือกไปชนบทน่ะนะ) แถมยังได้เรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชุมชนนั้น ๆ อีกด้วย
เจ้าของฟาร์ม ร้านอาหาร คาเฟ่ไหนต้องการลูกมือไปช่วยงาน ก็สามารถลงทะเบียนกับ WWOOF ได้ และ WWOOFers เอง ก็สามารถเลือกไป WWOOF ที่ไหนก็ได้เช่นกัน WWOOF จึงไม่มีอะไรซับซ้อนเลย อาศัยความเชื่อใจ และความเปิดกว้างทางใจระหว่างกันเท่านั้น
WWOOF มีเจ้าของฟาร์ม สวน และธุรกิจออร์แกนิคอื่น ๆ เป็นพันธมิตรหลัก ๆ อยู่ 4 ภาคพื้นทวีปทั่วโลก ทั้ง Africa, Americas, Asia-Pacific และยุโรป (เช็กประเทศที่มี WWOOF ได้ที่ https://wwoof.net/#destination) WWOOFers อยากไปประเทศไหน ก็คลิกไปที่ประเทศนั้น ๆ ได้เลย แต่สำหรับเรา ที่จะพาสาว ๆ ไป WWOOF Japan ก็จะมาชี้ลู่ทางไปวูฟแบบเข้าใจง่ายที่ใครก็ไปตามได้ทั้งนั้น
WWOOF Japan ไปไม่ยากอย่างที่คิด
ถ้าให้เลือกประเทศที่น่าไป WWOOF สำหรับมือใหม่หัดไปต่างประเทศคนเดียว เราก็ขอแนะนำญี่ปุ่นไว้ในอ้อมอกอ้อมใจเลย เพราะน่าจะเป็นประเทศที่เรามีความคุ้นเคยกันอยู่ แถมการคมนาคมก็ทั่วถึง ต่อให้จะเป็นญี่ปุ่นแบบชนบทสุดชีวิตก็ตาม เราจะมาชี้เป้ากันแบบ Step by step ไปเลยค่ะ!
- เข้าไปที่ https://www.wwoofjapan.com/main/index.php?lang=en
- กรอก WWOOFer application form สามารถกรอกในนั้นได้เลย ไม่ต้องโหลดไฟล์
- ชำระค่าสมาชิก 5,500 เยน อายุของเมมเบอร์จะมีระยะเวลา 1 ปี 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่สมัคร โดยตลอด 1 ปี 6 เดือนนี้ เราสามารถไป WWOOF Japan ซ้ำ ๆ กี่รอบก็ได้ตามแต่ใจต้องการ
4. มาเลือกโฮสต์กัน! WWOOF Japan จะมี 47 Prefectures (เทียบได้กับจังหวัด) และในแต่ละ Prefecture ก็จะมีเมืองต่าง ๆ ซอยย่อยไว้อีก เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องเปิด Google Map ขึ้นมา ว่าถูกใจเมืองไหน หรือภาคไหน เช่นอยากเย็นจุ๊บจิ๊บหน่อยก็ปักไปที่ภาค Tohoku แล้วเลือกจังหวัดในภาค (เราจิ้มไปที่ Aomori เพราะแอปเปิ้ลอร่อย) และจึงเลือกเมืองอีกที ซึ่งในแต่ละเมืองก็มีฟาร์มอีกนานับไม่ถ้วนให้เราเลือก
5. เปิด Host List ทีละบ้าน ว่าที่ไหนเหมาะกับไลฟ์สไตล์ และสิ่งที่เราอยากได้จากการไป WWOOF Japan มากที่สุด บางฟาร์มจะให้เราตื่นตี 5 มาขุดผัก เพื่อแพ็กผักส่งไปขายในตอนเช้า ตอนสาย ๆ ขุดต้นกระเทียมมาตัดจุก ตอนบ่ายให้อาหารไก่ เป็นต้น แต่งานอดิเรกที่โฮสต์จะสอนเราก็มีตั้งแต่สอนทำโซบะ ชวนอบขนมปัง ไปออนเซนแบบบ่อธรรมชาติ หรือไปปีนเขาใกล้บ้าน เลือกได้เลย!
6. กดตุ่ม Send a request to a host! ถ้าได้โฮสต์ที่ถูกชะตาต้องใจแล้ว เราอาจจะคิดว่าทำไมข้อมูลของโฮสต์น้อยจัง นั่นก็เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของโฮสต์ค่ะ สิ่งที่เราจะทราบจากขั้นตอนนี้ มีแค่ลักษณะธุรกิจออร์แกนิคของโฮสต์ จำนวนของคนในครอบครัว อายุ งานอดิเรก ประสบการณ์ ภาษาที่โฮสต์สื่อสารได้ และอีกเล็กน้อยเท่านั้น ถ้าตัดสินใจได้แล้ว ให้ระบุให้ชัดว่าจะไปช่วงไหน วันใด แล้วกด Send a request to a host ได้เลย
7. ติดต่อกับ Host นัดแนะวันไป WWOOF เมื่อโฮสต์กด Accept คำขอของเรา ข้อมูลส่วนตัวอย่างที่อยู่ เบอร์โทร ช่องทางติดต่อของโฮสต์ก็จะปรากฏให้เราเห็น มาถึงขั้นตอนนี้ เราสามารถคุยกับโฮสต์ผ่านช่องทางติดต่อในเว็บไซต์เรื่องวัน เวลา สายรถไฟที่จะเดินทางไปถึง เพื่อนัดแนะจุดรับส่งกันให้ชัดเจน แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว เตรียมแพ็กกระเป๋าเดินทางได้เลย
*ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ๆ เลยแหละ เราควรตรวจสอบวัน เวลาเดินทาง สายรถไฟ และจุดนัดพบให้แน่นอน เพราะโฮสต์ส่วนใหญ่จะหวงช่องทางติดต่อส่วนตัวมาก ๆ เซฟตัวเองกันการคลาดเคลื่อนด้วยนะคะ
คิดจะไป WWOOF Japan ต้องเตรียมตัวยังไง
วัยที่สามารถไป WWOOF Japan ได้คือคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ควรมีใจรักในความออร์แกนิค และพร้อมตะลุยความลำบากอย่างการตื่นมาขึงตาข่ายกันลมในเวลาตี 3 เพราะไต้ฝุ่นจะขึ้นฝั่งเมื่อไหร่ก็ได้!!
เราว่าใครที่มีงบน้อย การมา WWOOF Japan ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ที่แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายราคาถูก เพราะนอกจากประสบการณ์ที่ได้จากการทำฟาร์ม หรือสวนออร์แกนิค เราอาจไม่ได้เป็น WWOOFer คนเดียวในบ้าน! การได้แลกเปลี่ยนทัศนคติกับคนหลากหลายพื้นเพ ทั้งเพศ อาชีพ และประสบการณ์ในราคา 5,500 เยนไม่ใช่อะไรที่หาได้ง่าย ๆ แต่เรารับรองว่าคนที่ไป WWOOF Japan จะได้อะไรมากกว่าสกิลทำสวนแน่นอนค่ะ
แล้วถ้าพื้นฐานภาษาอังกฤษไม่ดีล่ะ? ไม่ต้องเป็นห่วงไปเลยค่ะ โฮสต์ที่ลงทะเบียนกับ WWOOF ก็จะมีความคิดที่ค่อนข้างเปิดกว้าง และยินดีต้อนรับมิตรสหายหน้าใหม่ที่หมุนเวียนกันไปตามแต่ละฤดูการอยู่แล้ว แต่ภาษาใน WWOOF น่ะ แสนจะไร้พรมแดน อยากรู้ต้องลอง
*เนื่องจากคนไทยสามารถเข้าประเทศญี่ปุ่นได้ไม่เกิน 15 วัน และเราไม่แนะนำให้ขอวีซ่า เพราะฉะนั้นอย่าลืมวางแผนการเดินทางดี ๆ นะคะ
ได้อะไรจากการไป WWOOF Japan บ้างนะ
อาหาร
โฮสต์ของ WWOOF Japan จะปรุงอาหารสดใหม่ให้เราในทุกมื้อ และประโยชน์ครบถ้วนแน่นอน เพราะโฮสต์แสนจะภูมิใจที่ได้นำเสนอเมนูท้องถิ่นของตัวเอง เราได้ชิมสาเกต้มกับปลาย่างร้อน ๆ 1 จอก ขอบอกว่าเกินบรรยาย บางรายอาจแถมขนมหวานดั้งเดิมของญี่ปุ่น (Wagashi) และถ้าคุณมีฝีมือ ก็สามารถทำอาหารไทยง่าย ๆ ให้โฮสต์กินได้เช่นกัน
สิ่งอำนวยความสะดวก
แน่นอนว่าชาววูฟเฟอร์จะได้รับห้องนอน ซึ่งอาจจะเป็นห้องนอนส่วนตัว หรือ Bunk Bed (เตียง 2 ชั้น) ที่ต้องแชร์กับวูฟเฟอร์คนอื่น บางทีอาจมีฟูกแบบญี่ปุ่น (Futon) แถมให้ด้วย ขอบอกว่าสบายมาก ๆ และโดยทั่วไป สิ่งอุปโภค บริโภคของครอบครัวก็จะเป็นอะไรที่ออร์แกนิคเช่นกัน เช่น ผักที่เอามาทำอาหาร ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน หรือเครื่องปรุง จะหยิบอะไรไปฝากก็ควรเลือกดี ๆ ด้วยนะ
ญี่ปุ่นสวยกว่าที่คิด
สถานที่สวย ๆ ในญี่ปุ่นยังมีอีกเยอะ ถ้าสาว ๆ เลือกไป WWOOF Japan แถบชนบท นอกจากความน่ารักของคนท้องถิ่นแล้ว แต่ละสถานที่ในต่างจังหวัดของญี่ปุ่นก็น่ารักไม่แพ้กัน ก็เหมือนเรานี่แหละ ที่แลนด์มาร์คไม่ไป แต่จะมีสถานที่สวย ๆ ในใจที่ไม่ได้ลงไกด์บุ๊คอยู่แล้ว
เรียนรู้วิถีชีวิตแบบออร์แกนิค
เพราะการทำฟาร์มออร์แกนิคของคนญี่ปุ่นนั้นจริงจังตั้งใจมาก ๆ สิ่งที่เป็นของเหลือ และเล็ดลอดไปจากฟาร์มจะต้องมั่นใจว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสังคม อย่างเช่นบ้านโฮสต์แถบชนบทส่วนใหญ่ ก็มักจะประกอบส้วม และระบบของเสียเอง เพื่อให้การใช้ชีวิตคลีนที่สุด การได้ไป WWOOF Japan จะทำให้เราได้พักปอด พักสมอง และใช้ชีวิตได้อย่างสะอาดขึ้น ซึ่งเราคิดว่ามันสามารถเปลี่ยนคน ๆ นึงได้เลยนะ
อ่านมาถึงตรงนี้ หลาย ๆ คนน่าจะเกิดประกายอะไรบางอย่างขึ้นมาแล้ว อย่ารอช้าเลยค่ะ! หากสถานการณ์ดีขึ้นเมื่อไหร่ รีบเข้าไปสมัคร WWOOF Japan ได้เลย อย่าลืมเปิดใจ และเตรียมตัวให้พร้อมรับประสบการณ์ดี ๆ ที่จะได้เจอระหว่างไป WWOOF Japan อย่างแน่นอน